Blink Blink
EV CarsTeslaUSA

กูรูรถยนต์อเมริกาพูดถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งในปี 2021(ปีหน้า)

ข้อความต่อไปนี้เป็นบทสัมภาษณ์ของ Jay Leno(เจย์ เลโน)ที่ถูกบันทึกโดย The Wall Street Journal (หนังสือพิมพ์ธุรกิจชื่อดังที่สุดของโลก)

หลังจากเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ชีวิตคนบนโลกนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง เช่น ผู้คนต่างเปลี่ยนแปลงการบริโภคจากการไปนั่งทานร้านอาหารหรูๆ เป็นการขับ drive thru (การขับรถเข้าไปรับการบริการตามรัาน ตามจุด ตามเคาน์เตอร์ โดยไม่ลงจากรถ) เพื่อไปรับอาหาร togo(สั่งกลับบ้าน) หรือจะเป็นการสั่งอาหารแบบ delivery มาทานแทน

อีกตัวอย่างก็จะเป็น “โอ้ที่รัก ชั้นอยากจะไปดูละคร Broadway musical (ละครเวที)จังเลย แต่ไม่มีใครมาแสดงในช่วงนี้ เอาเป็นว่า เราเปิดทีวีดูก็แล้วกัน”

ยกตัวอย่างอีกเรื่องคือ ถนนหนทางเราพัฒนาไปไกลมาก น้ำมันมีราคาถูกลงกว่าแต่ก่อน(เทียบกับค่าครองชีพที่อเมริกา) ทำให้ตำรวจนั้นออกใบสั่ง (speed ticket) จับความเร็วรถ(เร็วกว่า 160 km/h)เป็นว่าเล่นจากที่เคยออกใบสั่ง 5 ปีครั้ง(เมื่อ 50 ปีที่แล้ว)กลายเป็นออกใบสั่งทุกเดือน เพราะคนขับรถกันเร็วขึ้นและเยอะขึ้น

รู้หรือไม่ว่าในปี 1958 หรือ 62 ปีที่แล้ว รถยนต์ต่างๆสัญจรบนถนน freeway 405 (ถนน 8 เลน) ด้วยความเร็วเพียง 12 mph หรือ 19 km/h เท่านั้นเอง

ผมเคยขับรถยนต์ 1950 Plymouth station wagon ไปซื้อของที่ supermarket แถวบ้านปรากฏว่า ทุกคนต่างโบกมือและส่งยิ้มให้ผม เพราะสมัยก่อนนั้นรถยนต์เป็นสิ่งหายากมากๆ

รูป : รถยนต์ 1950 Plymouth station wagon

ตอนนี้(หลังโควิด)ทุกวันนี้คุณลองไปขับ Lamboghini เปิดประทุนเหมือนเมื่อก่อนสิ โดนชาวบ้านตะโกนด่าและปาหินใส่แน่นอนเพราะตอนนี้โควิดระบาดไปทุกพื้นที่จริงๆ(ในอเมริกา)

ดังนั้นความสำเร็จของธุรกิจต่างๆ ในอดีตอาจจะไม่สามารถใช้ได้กับปัจจุบันได้อีกแล้วล่ะ

รถยนต์คันล่าสุดของเจย์คือ Tesla Model S

ผมเป็นนักเลงรถยนต์นะครับ แต่รู้ไหมครับว่าตั้งแต่ผมซื้อเทสล่า โมเดล เอส(Tesla Model S)มาขับตั้งแต่ปี 2015 ผมก็ไม่เคยซื้อรถยนต์รุ่นอื่นมาขับอีกเลย

(สำหรับใครยังไม่รู้จักเจย์ เรโน และอยากรู้จักเจย์เรโนก็สามารถเลื่อนไปดูด้านล่างได้เลยน่ะครับ ผมทิ้งประวัติย่อๆ ให้อ่านครับ)

จะบอกว่าผมขับรถยนต์มาเกือบทุกรุ่นบนท้องตลาดก็ได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นรถกอล์ฟ, รถยนต์ 4 ที่นั่ง, รถสปอร์ต, รถ Hypercar, รถ Supercar, รถถัง(อันนี้เรื่องจริงครับ เค้าเคยขับรถถังออกรายการ) หรือรถยนต์แปลกๆ ต่างๆ ผมก็เคยขับมาหมดแล้ว

แต่ผมบอกได้เลยว่า รถเหล่านี้ที่ผมเคยขับมานั้นไม่มีอะไรที่ดีและแรงเท่ารถยนต์ไฟฟ้า(Tesla) เลย

ก่อนอื่นผมขอท้าวความกันก่อนนะครับ ตอน GM ออก EV1 มาใหม่ๆ ในปี 1990 นั้นผมก็เคยลองไปขับ GM บอกว่า Range มี 90-100 ไมล์ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง(144-160 km) แต่พอเอามาใช้จริงนั้นไม่มีใครสามารถขับไกลได้ขนาดนั้นเลย จริงๆ GM ก็ไม่ได้โกหกอะไรครับ เพราะตอนเค้าทดสอบก็ทดสอบกับสนามทดสอบธรรมดา แต่การใช้งานจริง เราไม่ได้ขับ 60km/h เป็นระยะทาง 144-160 km อย่างแน่นอน เพราะเวลาเราขับรถเราก็เหยียบเต็มที่เวลาเร่งแซงหรือจอดติดไฟแดงเป็นระยะเวลานานๆ(2-3 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)

รูปภาพ : GM EV1

ดังนั้นผมมองว่า Range (ระยะทางที่วิ่งได้)ของรถยนต์ไฟฟ้านั้นเหมือนการมีเซ็กส์ – ผู้ชายทุกคนเลือกที่จะโกหกมัน

อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน มันไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว Tesla และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ได้เข้าถึงเทคโนโลยีแบตที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแต่ก่อนเป็น 10-100 เท่า ดังนั้นรถยนต์ไฟฟ้าคันนึงวิ่งได้ไกลกว่า 400 ไมล์หรือ 640 km นั้นกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว

ทำให้ผมมองว่า แต่ก่อน(เมื่อ 10 ปีที่แล้ว)การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนคุณต้องเป็นคนรักษ์โลกเพราะรถยนต์ไฟฟ้ามีข้อจำกัดหลายอย่างเช่น แบตเสื่อมง่าย, วิ่งได้สั้นๆ, และไม่เร็ว แต่ลองดูรถยนต์ไฟฟ้าในท้องตลาดทุกวันนี้สิครับ อย่าง Tesla นั้นออกรถรุ่นใหม่มาเรื่อยๆ แถมชาร์จครั้งนึงก็วิ่งได้มากกว่า 700 km กันไปแล้ว เอาจริงๆ รถยนต์ไฟฟ้านั้นเร็วกว่า, ซ่อมบำรุงน้อยกว่ามากๆ, ส่วนของแถมอีกอย่างก็เป็นเรื่องรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งผมไม่ค่อยใส่ใจอยู่แล้ว แต่มีก็ดี

ตอนผมวางแผนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla นั้น ผมไม่ได้เลือก Tesla เพราะมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลักน่ะครับ ผมไม่ใช่แนวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจ๋าครับ ความต้องการแรกของผมคือ อยากได้รถยนต์สี่ประตูที่มีอัตราเร่งที่เหนือกว่า supercar ส่วนของแถมที่ผมได้มานั้นคือ ไม่ต้องซ่อมบำรุงอะไรเลย อีกเรื่องที่แถมมาก็เป็นเรื่องสิ่งแวดล้อมครับ ซึ่งของเหล่านี้เป็นตัวเลือกสุดท้ายในการซื้อรถครับ สิ่งสำคัญของผมคือความเร็วและการขับขี่ที่คล่องตัว

หลังจากผมได้ครอบครองเทสล่าแล้วก็ฟันธงได้เลยว่า รถยนต์น้ำมันอาจจะมลายหายไปภายในเร็วๆ นี้แน่นอน เพราะเหตุผลด้านบนที่กล่าวมาครับ

ส่วนตัวผมนั้น ผมชอบรถยนต์น้ำมันเพราะได้เห็นส่วนเว้าของเครื่องยนต์, ท่อแน่ๆ ในห้องเครื่องและการขัดมันของ header เครื่องยนต์ครับ

รูปภาพ : เครื่องยนต์ของรถ Ford Shelby Mustang

แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นว่า ผู้ผลิตรถยนต์เอาแผ่นพลาสติกมาปิดเครื่องยนต์กันหมดแล้ว ไม่รู้จะเอามาปิดทำไม เพราะเวลาเราเปิดฝากระโปรงมา แทนที่จะเห็นเครื่อง V6, V8 ที่เราภูมิใจซื้อมันมา (อารมณ์เหมือนเราซื้อนาฬิกาข้อมือออโตเมติกมาเพื่อดูฟันเฟืองของมันเวลาเราว่าง) แต่ตอนนี้เรากลับเห็นแผ่นพลาสติกใหญ่ๆ มาคลุมเครื่องยนต์ซะงั้น หมดเสน่ห์ไปเลย เซ็งจริงๆ

ภายในห้องเครื่องยนต์ของ Ford Escape

อารมณ์ของคนที่ซื้อรถยนต์น้ำมันมาใช้เพื่อดูห้องเครื่องก็เหมือนคนที่ซื้อเครื่องซักผ้า Maytag washing-machine engines (เครื่องซักผ้าแบบเครื่องยนต์)มาใช้เพื่อดูห้องเครื่องเวลามันทำงานแหละครับ

เจย์เลยสรุปว่า อีกไม่กี่ปีต่อจากนี้(ไม่เกิน 10 ปีนี้) รถยนต์น้ำมันหรูๆอย่าง Ferrari หรือ Cobras(Shelby 500GT) จะกลายเป็นของเล่นสะสมของคนรวยที่พวกเค้าเอาไว้ใช้ขับช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบรถสกี(snowmobile), รถวิบากสี่ล้อ(ATV) หรือเรือใบอะไรประมาณนี้น่ะ ส่วนการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันจะเป็นการนั่ง ride sharing (uber) หรือการขับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่

ที่มา : The Wall Stree Journal

เจย์ เรโนคือใคร?

หลายต่อหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการรถยนต์เก่าๆ หรือ รถยนต์ใหม่ๆ ก็จะไม่รู้จักมักจี่กับชายคนนี้นะครับ ผมขอเปรียบเปรยให้เค้าเป็นเหมือนพี่เบิร์ด ธงชัยแห่งวงการรถยนต์ในอเมริกาเลย ถ้าคุณอยู่อเมริกาแล้วชอบเล่นรถ ไม่มีทางเลยที่คุณจะไม่เคยเห็นรายการของลุงคนนี้

ประวัติ เจย์ เลโน คร่าว :

เจย์ เลโน (อังกฤษ: Jay Leno) เป็นนักแสดงตลกสแตนอัปคอเมดี และพิธีกรรายการโทรทัศน์ ชาวอเมริกัน ตั้งแต่ ค.ศ. 1992 – 2009 เลโนเป็นพิธีกรทางช่องเอ็นบีซีที่ชื่อรายการ The Tonight Show with Jay Leno และตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ. 2009 เลโนเริ่มรายการทอล์กโชว์ในช่วงไพรม์ไทม์ ที่ชื่อ The Jay Leno Show ทางช่องเอ็นบีซีเช่นกัน แต่หลังจากที่รายการ The Jay Leno Show ถูกยกเลิกไปในเดือนมกราคม ค.ศ. 2010 ท่ามกลางปัญหาเรื่องพิธีกร เลโนก็กลับมาจัดรายการ The Tonight Show with Jay Leno เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2010

เรามาดูกันไหมว่า เจย์เคยสัมภาษณ์ใครบ้าง

อดีตประธานาธิบดีโอบาม่า
อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช
อดีตประธานาธิบดีทรัมป์
นักแสดงตลกฮอลลิวู๊ด จิม แคร์รี่


ที่มา : wikipedia

ความดังของเจย์ เลโนในอเมริกานั้นก็พอๆ กับโอปราห์ วินฟรีย์เลย ถ้าใครไม่รู้จักทั้งสองคน ผมเปรียบง่ายๆว่าคนดังระดับประเทศเหมือนอาต๋อย ไตรภพครับ ถ้าเดินบนท้องถนนในอเมริกา ไม่มีทางที่เค้าจะสามารถเดินผ่านคนได้อย่างอิสระโดยไม่โดนขอถ่ายรูปอย่างแน่นอนครับ

ล่าสุด เจย์ เลโนได้เซ็นสัญญากับช่อง CNBC เปิดตัว เจย์ เรโน การาจ ภาค 5 (Season 5) โดย รายการ เจย์ เรโน การาจนั้นได้รับ เรทติ้งดีมากๆถึง 92 % จาก google ซึ่งรายการนั้นมีมาตั้งแต่ปี 2015 (season 1) และก็ได้รับกระแสนิยมมาโดยตลอดเวลาที่ผ่านมา

โดยหนังสือพิมพ์ latimes รายงานว่าเขาเป็นเจ้าของรถยนต์กว่า 130 คัน รวมถึงมอเตอร์ไซค์อีก 93 คัน และถึงแม้จะมีจำนวนมากมายขนาดไหน แต่เขาก็ไม่ลืมบำรุงรักษาเพื่อให้พวกมันใช้การได้อยู่เสมอ
ที่มา : เว็บ Kapook

BLINK DRIVE TAKE

ไม่เชื่อเจย์ จะไปเชื่อใคร?

จริงไหมครับ?

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email