อ้างอิงข้อมูลจาก electrek ,โดยไตรมาส 3 ปีที่แล้ว Tesla ได้ทำการขายรถออกไปมากถึง 97,000 คันครับ ส่วนปีนี้มียอดส่งมอบรวมทั้งหมดที่ 139,300 คัน ส่วนต่างระหว่างปี 2019 กับปี 2020 อยู่ที่ 42,300 คัน ทำให้ยอดขายไตรมาส 3 ปีนี้มากกว่ายอดขายไตรมาส 3 ปีที่แล้ว(2019) ถึง 43 % ครับ
ยอดขายปี 2019 Q3 | ผลิต | ส่งมอบ | มีการ lease |
Model S/X | 16,318 | 17,400 | 15% |
Model 3/Y | 79,837 | 79,600 | 8% |
Total | 96,155 | 97,000 |
ยอดขายปี 2020 Q3 | ผลิต | ส่งมอบ | มีการ lease |
Model S/X | 16,992 | 15,200 | 13% |
Model 3/Y | 128,044 | 124,100 | 7% |
Total | 145,036 | 139,300 | 7% |
ส่วน Wall Street Consensus นั้นวิเคราะห์ว่า Tesla จะสามารถส่งมอบรถได้เพียง 120,000 คันในไตรมาสที่ 3 นี้ครับ แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว Tesla สามารถส่งมอบรถได้มากถึง 140,000 คัน(ขาดไปแค่ 700 คันเท่านั้นเอง)
BLINK DRIVE TAKE
เอาจริงๆ ตอนนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งโลกยังประสบปัญหายอดขายอยู่ทุกค่ายน่ะครับ เรียกได้ว่ายอดขายดีกว่าตอนที่มีโควิดแต่ไม่มีค่ายรถยนต์ค่ายไหนที่มียอดขายแซงปีที่แล้วซักรายเลยครับ
ถ้ามองกันตามเนื้อผ้าคือ Tesla นั้นได้เปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Gigafactory 3 ที่จีนทำให้ยอดขายเหล่านั้นมาผยุงยอดขายทั้งบริษัทให้มากกว่าปีที่แล้วครับ แถมยังได้ demand มาจาก Model Y ที่เพิ่งเปิดตัวต้นปีนี้มาช่วยดันยอดขายรถยนต์ให้แก่ Tesla ครับ
แต่ถ้ามองอีกมุมนึงคือประชาชนทั่วโลกนั้นเริ่มหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นกว่าปีที่แล้วเป็นอย่างมากครับ มันเป็นไม่ได้ครับที่คนๆ เดียวจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า 2-3 คันมาเก็บเล่นครับ สาเหตุหลักที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าโตสวนกระแสโควิดแบบนี้เพราะคนทั่วโลกเริ่มหันไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้แทนรถยนต์น้ำมันกันแล้วครับ
ทุกวันนี้ Tesla ประสบปัญหาผลิตรถยนต์ส่งมอบไม่ทันน่ะครับ ไม่ใช่ขายไม่ดีครับ แปลกใจที่บ้านเราไม่คิดจะไปช่วยเค้าผลิตหรือแย่ง demand เหล่านั้นมาเป็นของตนบ้างกันเลยครับ