บริษัท Tesla ได้ทำการลุงทุน 150 ล้านบาท (5 ล้านเหรียญสหรัฐ)ซื้อที่ดินนอกเมืองออสติน(เมืองหลวงเท็กซัส) รัฐเท็กซัสซึ่งเตรียมจะทำการสร้างโรงงานผลิตรถกระบะไฟฟ้า CyberTruck โดยรัฐบาลท้องถิ่นให้เงินสนับสนุนโครงการนี้อีก 1,800 ล้านบาท(60 ล้านเหรียญสหรัฐ)เพื่อจูงใจให้เทสล่ามาสร้างโรงงานในรัฐของตน
3 รัฐยื่นข้อเสนอให้เทสล่ามาเปิดโรงงานในรัฐของตนเอง
จริงๆ ผมเคยรายงานไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า “รัฐมิสซูรี(Missouri) เตรียมมอบเงิน incentive(สนับสนุน) 1,500 ล้านบาทให้เทสล่า เพื่อให้เทสล่ามาสร้างโรงงาน Cyber Truck ในรัฐของตนเอง” และผมก็เคยเขียนรายงานว่า
“ทางรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐโอกาโฮม่าได้ทำการทาสีโลโก้ Tesla ที่จุด landmark(แปล -สถานที่ที่เป็น สัญญลักษณ์ ประจำพื้นที่หรือเมืองหนึ่งๆ) ของรัฐตัวเอง ซึ่งหุ่นตัวนี้คือตัวแทนของ oil worker (คนงานขุดเจาะน้ำมัน)
ซึ่งนั่นก็แปลว่ารัฐโอกาโฮม่าเตรียมต้อนรับเทคโนโลยีพลังงานสะอาด(Green energy) แทนที่เทคโนโลยีทำลายโลกอย่างการขุดน้ำมันนะครับ
Facebook Blink Drive
แต่ดูเหมือนว่า รัฐเท็กซัสจะให้เยอะกว่า 300 ล้านบาทน่ะครับ นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ Tesla เปลี่ยนใจมาเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในรัฐนี้ก็เป็นได้ครับ โดยเทสล่าได้กล่าวทิ้งท้ายเกี่ยวกับโปรเจคการสร้างโรงงานผลิตรถกระบะไฟฟ้าที่ออสตินเอาไว้ดังนี้
Tesla ได้ทำการประเมินพื้นที่ในเขต ทราวิส(Travis) ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองออสตินไปหน่อยๆ ซึ่งพื้นที่นี้เหมาะแก่การสร้างโรงงานผลิตกระบะไฟฟ้า CyberTruck และศูนย์พัฒนาและออกแบบรถกระบะไฟฟ้าคันนี้อีกด้วย ขนาดพื้นที่แห่งนี้จะอยู่ที่ 2,100 เอเคอร์หรือประมาณ 5,313 ไร่และตั้งอยู่ตรงถนนไฮเวย์ SH-130 ตัดกับถนน Harold Green โดยผู้ดูแลพื้นที่นี้คือ Martin Marietta และ Texas Construction project โดย Martin Marietta จะเป็นคนดูแลโปรเจคนี้ตอนนี้และค่อยถ่ายโอนงานทั้งหมดไปยังหน่วยงานอื่นๆ ทั้งหมดภายหลัง
บริษัท Tesla
เอกสารเกี่ยวกับสัญญาการก่อสร้างโรงงานผลิตรถกระบะไฟฟ้า Cybertruck
ที่มา : electrek
BLINK DRIVE TAKE
เวลาพูดถึงเรื่องภาษีรถยนต์ไฟฟ้าในไทยว่า ทำไมสูงจัง ก็จะมีคนมาบอกผมว่า ตั้งกำแพงภาษีสูงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างประเทศเอารถยนต์เข้ามาขายในไทยโดยไม่เข้ามาตั้งโรงงาน แปลไทยเป็นไทยคือ ถ้าอยากขายรถยนต์ในราคาถูกก็ต้องมาสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศ ไม่งั้นจะเจอกำแพงภาษีนำเข้าสูงถึง 200 %
คราวนี้เค้าก็บอกผมว่า ถ้าอยากให้เทสล่าขายในราคาถูกเท่าจีนหรืออเมริกาก็ไปบอกให้เค้ามาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทยสิ หรือเค้าต้องมาติดต่อไทยเอง ไทยไม่ไปง้อใครมาตั้งโรงงานหรอก
ผมก็งงเลยว่า ไทยมีตัวเลือกได้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอครับ? ประเทศอื่นๆ บนโลกไปง้อเทสล่าให้มาผลิตที่ประเทศของเค้าหรือรัฐของเค้า แต่ไทยบอกว่า ถ้าอยากขายถูกก็มาเปิดโรงงานเอง แต่พอเค้าวางแผนจะมาเปิดโรงงานก็กลับไปขึ้นราคาที่ดินเค้าซะงั้นทำให้เค้าหนีไปเปิดโรงงานที่จีนยังไงล่ะครับ
“ตามรายงานข่าวจาก หนังสือพิมพ์ทันหุ้น เปิดรายงานที่ชี้ชัดว่า บริษัท Tesla Motor ผู้ผลิตและจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้า ได้เข้ามาเจรจากับ “บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD” เพื่อขอสำรวจก่อนซื้อที่ดินแปลงใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี เฟส 2 อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา จากทั้งหมด 2.5 พันไร่
ตามรายงานระบุว่า Tesla เล็งเห็นศักยภาพในการทำตลาดในภูมิภาคอาเซียน โดยการเข้ามาครั้งน้ะตั้งโรงงานเพื่อผลิตและส่งออก ไปยังแถบ อาเซียน และเอเซียน ที่กำลังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เบื้องต้นทาง Tesla มีการประเมินราคาที่ดิน ที่จะเข้ามาตั้งโรงงานว่ามีมูลค่าไร่ละ 9 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 1,800 ล้านบาท เมื่อหักจากต้นทุนไร่ละ 3 ล้านบาท ทางนิคมจะมีกำไรสุงมากพอสมควรในการขายที่ดินครั้งนี้
อย่างไรก็ดีเมื่อปีกลาย Tesla ตกเป็นข่าวต่อการเตรียมเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย แต่ก็มีเรื่องราวอันซับซ้อนจนเงียบหายกันไปในท้ายที่สุด ส่วนข่าวคราวว่าที่ Tesla ในไทยจะเป็นอย่างไร เราจะติดตามมานำเสนอต่อไป”
ที่มา : https://www.autodeft.com/…/rumor-tesla-invest-onthailand
ไทยหยิ่งขนาดไม่ไปง้อเค้ามาลงทุนในประเทศไม่พอ ยังบอกว่ารถยนต์ไฟฟ้าไม่จำเป็นต่อประชาชนคนไทย
หมายเหตุประเทศไทย : รถยนต์ไฟฟ้าไทยต้องรออีกนาน
ปล. ผมสงสารเด็กไทยที่กำลังเรียนจบน่ะครับ ไม่เพียงเค้าจะหางานยากกว่าประเทศอื่นๆ บนโลกเท่านั้น แต่เค้ายังต้องมาสูดดมควันพิษจากท่อไอเสียเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวของผู้ประกอบการบางรายที่ไม่อยากเห็น Tesla มาเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ที่ไทยอีกแหละครับ
ผมสงสารประชาชนคนไทยที่ต้องมารับกรรมเหล่านี้ ทั้งๆ ที่เราได้ Tesla มาเจรจากับเราก่อนเค้าจะเปลี่ยนใจไปจีน(ในปี 2560)นะครับ แต่กลายเป็นว่า เค้าหนีไปเปิดโรงงานที่จีนซะงั้น ถ้าเค้าเปิดที่จีนแล้ว มันยากครับที่เค้าจะหันกลับมาเปิดที่ไทยอีกโรงงานครับ
เพราะเค้าวางแผนให้มีโรงงานผลิตรถยนต์เพียงประเทศเดียวในเอเชีย
เสียดายแทนประชาชนคนไทยครับ
เสียดายแทนเยาวชนของเราทุกคนจริงๆครับ