มีสมาชิกเพจถามมานะครับว่า ทำไมรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ถึงขับชนรถบรรทุกกลางถนน highway ณ ประเทศไต้หวันนะครับ
ผมขอเอาข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญจากแดนฝรั่งมาแปลตอบในนี้นะครับ
1. รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 เคลื่อนตัวมาด้วยความเร็ว 110 km/h
ถือว่าเป็นความเร็วที่เร็วมากๆ และผู้ใช้งาน Tesla ที่อเมริการู้กันว่า ความเร็วระดับนี้ไม่ควรปล่อยพวงมาลัยหรือละสายตาไปทีอื่นเป็นเวลานานๆ เพราะว่า ระบบ auto-pilot ของ Tesla นั้นยังไม่ใช่ level 3 ที่ขับได้สมบูรณ์แบบ
2. คนขับเปิด Auto-pilot และหลับใน?
ถ้าดูจากวิดีโอจะเห็นได้ว่าคนขับนั้นไม่ได้มองถนนเป็นเวลา 8 วินาทีเต็มๆ ซึ่ง 8 วินาทีนั้นรถยนต์สามารถเคลื่อนตัวไปได้ไกลถึง 244 เมตรนะครับ(เค้าขับมาด้วยความเร็ว 110 km/h ครับ) ระยะทาง 244 เมตรนั้น มันเป็นระยะทางที่ เรดาร์(ตัวแสกนระยะไกลของรถ) แทบจะแสกนอะไรไม่เจอเลย
หมายเหตุ : ระยะทำการของเรดาร์หน้ารถอยู่ที่ 250 เมตรครับ แต่นี่ล่อไปเกือบ 250 เมตรแถมเป็น object หยุดอยู่กับที่และตั้งฺอยู่กลางถนนซะด้วย
หมายเหตุ : เรดาร์ของ Tesla นั้นจะทำงานได้ดีในระยะทาง 160 เมตรครับ
ลองคิดเล่นๆ นะครับ ตาคนเรานั้นมองไกลได้ถึง 250 เมตรไหมครับ?
เรดาร์มันทำงานแล้วครับ แต่มันไม่ได้เบรคให้เราทุกครั้งไป ยิ่งเคสที่มีวัตถุขนาดใหญ่กลางถนนแบบนี้แล้วยิ่งไม่มีทางที่จะเบรคทันครับ
3. Automatic Braking System ทำงานก่อนการชน 1 วินาที
เรื่องนี้ไม่มีใครพูดถึงกันเลย แต่ถ้าดูจากวิดีโอแล้วจะเห็นได้ว่า รถทำการเบรคให้ก่อนชนถึง 1 วินาที ซึ่งมันเป็นระยะเบรคที่สั้นมากๆ (30 เมตร) กับอัตราความเร็วที่รถวิ่งมาที่ 110 km/h ทำให้รถไม่สามารถเบรคได้อย่างสมบูรณ์แบบน่ะครับ
4. คนขับปลอดภัยออกมาแบบไม่บาดเจ็บอะไรเลย
เรื่องนี้ไม่มีสำนักข่าวไทยไหนลงข่าวกันเลย ส่วนใหญ่จะโจมตีไปที่ระบบ auto-pilot และบริษัท Tesla แต่ไม่ base on fact(ตั้งอยู่บนความจริง)ว่า ระบบเรดาร์นั้นมีขีดจำกัดที่ 250 เมตรและไม่สามารถหยุดรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ (แค่รถมันกดเบรคให้ก่อนชนก็บุญมากแล้วครับ) แถมเรื่องคนขับหลับในหรือไม่ยอมมองทางถึง 8 วินาทีก่อนชนก็ไม่ได้เอามาพุดกันเลยครับ
5. คนขับรถพ่วงที่ล้มขวางถนนไม่ได้เอากรวยหรือของมากั้นทางเอาไว้
ที่อเมริกานั้นถ้าคนขับรถไม่ได้เอาของมากั้นทางรถเอาไว้ว่าข้างหน้าจะมี object (วัตถุ)หนักขวางถนนอยู่ ความผิดจะถูกแบ่งไปเป็นคนขับรถพ่วงนั้นด้วยนะครับ เพราะถนน highway นั้นออกแบบมาให้ขับห้ามต่ำกว่า 100 km/h แต่นี่เล่นคว่ำถนนเลนในซะด้วย ต่อให้ไม่ใช้ auto-pilot ก็มีโอกาสขับชนแน่นอนครับ
ที่มา : electrek
ที่มา : wires
BLINK DRIVE TAKE
ไม่ว่าคนขับจะใช้หรือไม่ใช้ระบบ Auto-pilot นั้นก็ไม่ควรจะหลับในหรือไม่มองทางถึง 8 วินาทีนะครับ การที่คนประมาทแบบนี้อาจจะส่งผลเสียให้แก่คนรอบข้างหรือผู้ใช้ถนนด้วยกันด้วยครับ
อีลอนบอกเอาว่า ไม่มีรถยนต์ไฟฟ้า Tesla คันไหนสามารถพาคนไปถึงจุดหมายโดยคนขับไม่ดูทางนะครับ ระบบจะช่วยแบ่งเบาภาระในการขับขี่ทางไกลแต่ไม่ได้แปลว่าขับให้ครับ
แต่คนที่ซื้อไปส่วนใหญ่ก็ลักไก่แอบเปิดใช้ auto-pilot ให้ขับให้ ส่วนตัวเองก็ไปทำอย่างอื่นเช่น นั่งดูหนัง Harry Potter ติดต่อกัน 2 ภาค(นี่เป็นเคสแรกของโลกที่คนขับ Tesla Model S แล้วเปิด auto-pilot ทิ้งไว้นานมาก จนรถพุ่งไปชนรถบรรทุกที่กำลังกลับรถแล้วตาย) ผลปรากฏว่า เส้นทางที่เค้าวิ่งก่อนเกิดอุบัติเหตุนั้น เค้าได้วิ่งรถไปมากกว่า 41 นาที โดยเปิด autopilot ทิ้งเอาไว้ 37.5 นาทีและเค้าไม่ได้จับพวงมาลัยหรือมองทางมากกว่า 31 นาทีฺนะครับและระบบแจ้งเตือนมากกว่า 10 ครั้งแล้วด้วยก่อนเค้าจะพุ่งชนรถบรรทุกนะครับ
ที่มา : business insider
ยังไงก็ตาม รอ Tesla เอา log การขับขี่ของชายท่านนี้มายืนยันอีกทีนะครับว่า เค้าไม่ได้จับพวงมาลัยเป็นระยะเวลากี่วินาทีก่อนรถจะชนนะครับ