อ้างอิงจากข่าว รอยเตอร์ (Reuters), ประเทศเยอรมันออกกฏหมายบังคับให้ปั้มน้ำมันทั่วประเทศต้องมีสถานีชาร์จไฟให้แก่รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อเร่งการเปลี่ยนถ่ายจากรถยนต์น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าให้เร็วยิ่งขึ้นและเป็นการตอบรับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าของประชาชนที่มีมากขึ้นในปีนี้อีกด้วย โดยแผนการณ์นี้ได้บรรจุเข้าไปในแผนการณ์พลิกฟื้นเศษรฐกิจหลัง COVID-19 จบอีกด้วย(economic recovery plan) 4.65 ล้านล้านบาท(130,000 ล้านยูโร)ฺ
สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าเต็มกำลัง
เยอรมันไม่เพียงจะออกแผนการณ์ในการเปลี่ยนถ่ายที่จอดรถในปั้มน้ำมันให้กลายเป็นสถานีชาร์จไฟเท่านั้น แต่เค้ายังฺสร้างบทลงโทษแก่คนที่ใช้งานรถยนต์น้ำมัน SUV แบบเก่าอีกด้วยโดยเค้าจะเก็บเงินภาษี carbon หนักๆ จากคนที่ยังดันทุรังใช้งานรถยนต์เก่ามาจ่ายเป็นเงิน incentive (เงินอุดหนุน)ให้แก่ประชาชนที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า โดยประเทศเยอรมันได้อุดหนุนเงินให้แก่ประชาชนเหล่านั้นคันล่ะ 6,000 ยูโรหรือ 214,650 บาท ซึ่งประชาชนส่วนมากเห็นด้วยกับความคิดนี้เพราะเป็นการเร่งการเปลี่ยนถ่ายให้คนใช้รถเก่าเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันนะครับ
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 3.3 % ในเดือนที่แล้ว
เยอรมันได้แจ้ว่า ปีที่ผ่านมานั้นมียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในสูงถึง 1.8 % เท่านั้นในหมวดหมู่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล(passenger car) โดยประกอบไปด้วยรถยนต์น้ำมันดีเซล 32 % และรถยนต์น้ำมันเบนซิน 59.2 %
แต่มาในเดือนพฤษภาคม 2563 นี้, ยอดจดทะเบียนรถยนต์นั้นอยู่ที่ 168,148 คันโดย 5,578 คันหรือคิดเป็น 3.3 % นั้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด (อ้างอิงข้อมูลจาก German vehicle agency KBA)
ตั้งเป้าเปิดสถานีชาร์จไฟ 70,000 แห่งภายในเร็วๆ นี้
ณ เดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมานั้นประเทศเยอรมันมีสถานีชาร์จไฟมากถึง 27,730 สถานีแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชากรในประเทศเสียที
โดยประเทศเยอรมันตั้งเป้าให้มีสถานีชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 70,000 แห่งและสถานีชาร์จไฟเร็วมากกว่า 7,000 แห่งภายในเร็วๆ นี้อีกด้วย
ตอนนี้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้านั้นพัฒนามากกว่า 40 % ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้นเยอรมันมองว่าถึงเวลาที่จะลดจำนวนปั้มน้ำมันในประเทศและเปลี่ยนให้ปั้มน้ำมันเหล่านั้นปรับตัวให้กลายเป็นสถานีชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้าภายในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย
ที่มา : ข่าว รอยเตอร์ (Reuters)
BLINK DRIVE TAKE
เดือนนึงประเทศเยอรมันขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 5,578 คันนี่เยอะกว่าไทยขายทั้งปี 2562 ถึง 3 เท่านะครับ ในปี 2562 นั้นประเทศไทยขายรถยนต์ไฟฟ้า MG ZS EV ได้เพียง 1,500 คันเท่านั้นเองคิดเป็น 0.15 % ของยอดขายทั้งประเทศไทยครับ หรือเรียกได้ว่ายอดขายสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าของไทยกับเยอรมันนั้นห่างกันประมาณ 20 เท่าครับ ทั้งๆ ที่มีประชากรเพียง 83 ล้านคน(มากกว่าไทยประมาณ 12 ล้านคนเองครับ)
ที่มา : หมายเหตุประเทศไทย : รถยนต์ไฟฟ้าไทยต้องรออีกนาน