Blink Blink
EV CarsRivian

Rivian เตรียมส่งมอบ รถตู้ไฟฟ้าส่งของคันแรกให้แก่ Amazon ปี 2564

ตอนนี้ ค่ายรถยนต์ต่างๆ ในอเมริกาเริ่มกลับมาทำงานได้อีกครั้งแล้วนะครับ หลังจากโดนการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ถล่มเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

Rivian นั้นก็เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบนั้นด้วย โดย Rivian ได้ออกมาทำวิดีโอออกมาฉายว่า การทำงานในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Rivian นั้นได้กลับมา reopen (เปิดกิจการ) อีกครั้งครับ โดยโรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Normal (นอร์มอล) รัฐอิลินอย ประเทศสหรัฐอเมริกา

ส่งมอบรถตู้ไฟฟ้าตามกำหนดการปี 2564

เบื้องต้น Rivian บอกว่ารถกระบะไฟฟ้า R1T และ รถ SUV ไฟฟ้า R1S นั้นคงต้องเลื่อนวันส่งมอบออกไปก่อน แต่การส่งมอบรถตู้ไฟฟ้าสำหรับส่งของของบริษัท Amazon นั้นยังคงตามกำหนดการเดิมคือ เริ่มส่งมอบรถตู้ไฟฟ้าคันแรกในต้นปี 2564

Amazon ลงทุนกับ Rivian ไป 4 หมื่นล้านบาท

Amazon” และค่ายรถยนต์ชื่อดังอย่าง “Ford” ได้จัดหนักประกาศเข้าลงทุนใน “Rivian Automotive” บริษัทสตาร์ทอัพมาแรงด้านรถกระบะพลังงานไฟฟ้า ด้วยมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1.3 พันล้านเหรียญๆ หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท

ที่มา : blockdit

ตั้งเป้า 100,000 คันภายใน 9 ปี

โดย Amazon จะสามารถใช้งาน รถตู้ไฟฟ้า 10,000 คันแรกได้ภายในปี 2022 จากนั้นจะทยอยเพิ่มสัดส่วนการใช้งานจนครบจำนวนที่ซื้อภายในปี 2030

“เรามีรถตู้ส่งของจำนวนมาก และปัจจุบันทั้งหมดต่างใช้เชื้อเพลิงฺฟอสซิล” Bezos กล่าว “เมื่อคุณลงนามในปฏิญญาอย่าง Climate Pledge มันจะผลักดันเศรษฐกิจให้เกิดการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่บริษัทขนาดใหญ่จำเป็นต้องใช้เพื่อปฏิบัติตามปฏิญญานั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงลงทุนใน Rivian ซึ่งเราลงทุนไปแล้ว 440 ล้านเหรียญ”

ที่มา : forbesthailand

ทั้งนี้ Amazon ตั้งเป้านำรถตู้ไฟฟ้าของ Rivian มาทดแทนรถตู้ที่บริษัทมาอยู่ทั้งอเมริกาซึ่งจะเท่ากับประมาณ 100,000 คันโดย Amazon ตั้ง deadline (ขีดเส้นตาย)วันกำหนดจัดส่ง 100,000 คันภายในปี 2030 หรืออีก 9 ปีข้างหน้าครับ

ที่มา : electrek

BLINK DRIVE TAKE

เป้าหมายของ Amazon นั้นชัดเจนมากๆ คือ ไม่เอารถตู้น้ำมันมาใช้ในบริษัทแล้ว และถ้าเกิด Amazon ซึ่งเป็นเจ้าพ่อ logistic ของอเมริกาปรับตัวอย่างนี้ ผมเชื่อว่า อนาคต UPS, Fed-Ex, Uber Eat, USPS, Uber, Doordash และบริการขนส่งต่างๆ ในอเมริกาจะต้องปรับตัวตามอย่างแน่นอนครับ

ที่อยากให้โฟกัสข่าวนี้เพราะว่า Amazon กำลังวางแผนที่จะเลิกใช้งานรถตู้น้ำมันมากกว่า 100,000 คันภายใน 8-9 ปีนี้ แสดงว่า หลังจากปีนี้ไป การซื้อรถใหม่เข้าบริษัทจะต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้นใช่ไหมครับ เพราะว่าอายุการใช้งานรถยนต์คันนึงมันประมาณ 5-10 ปีนะครับ

ใครจะซื้อรถยนต์น้ำมันมาใช้ ถ้ารู้ว่า แนวทางของบริษัทคือการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถตู้ไฟฟ้าภายใน 10 ปีหลังจากนี้เนอะ

ถ้าเค้าวางแผนจะต้องปลดระวางรถยนต์น้ำมันบางคันปีหน้าจริงๆ เชื่อว่า รถใหม่ที่เข้ามาแทนที่รถเก่าคันนี้จะเป็นไฟฟ้าล้วนแหละครับ หรือเรียกได้ว่า เค้าจะไม่ซื้อรถยนต์น้ำมันมาใช้ในบริษัทตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปแล้วครับ

แบบนี้ เรายังคงยังมั่นใจกับรถยนต์หรือรถตู้น้ำมันกันอยู่อีกหรอครับ ? ไทยอาจจะเตะถ่วง(แปลว่า พยายามทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเกิดช้า) แต่อย่าลืมนะครับว่า ถ้าทั่วโลกเปลี่ยนการใช้งานรถยนต์แล้ว บริษัท supplier ที่ส่ง part (ชิ้นส่วน)ต่างๆ ให้แก่บริษัทผู้ผลิตก็ต้องปิดตัวเช่นกัน เพราะ demand มันลดลง ครั้นจะบอกให้เค้าเปิดบริษัทเพื่อขายให้แก่ประเทศไทยประเทศเดียวคงไม่ไหวกระมั้งครับ

ยังไงก็ลองดูต่อไปว่าไทยจะใช้วิธีการใดในการ “เตะถ่วง” ไม่ให้รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาขายในไทยภายใน 1-2 ปีนี้ครับ

แต่สิ่งหนึ่งที่โลกใบนี้กำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาลคือ ยอดขายรถยนต์น้ำมันครับ มันจะไม่กลับมา peak เหมือนเดิมอีกแล้วครับ ลองดูกันนะครับ ว่า Supplier ต่างๆ จะปรับตัวกันอย่างไรหลังจบ COVID-19 นี้นะครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email