Blink Blink
EV Carsvolk swagen

Volkswagen เตรียมวางขายรถยนต์ไฟฟ้าราคา 710,000 บาท(€20,000)เอาใจวัยรุ่นสร้างตัว

สิ่งสำคัญที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ายังไม่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในที่ต่างๆ บนโลกนั้นก็มาจากราคาของรถยนต์ไฟฟ้าแหละครับ อย่าง Tesla Model 3 นั้นมีราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 1.2 ล้านบาท($40,000) ดังนั้น Volkswagen พยายามจะแก้ไขปัญหานี้ให้จงได้แหละครับ

โดย Volkswagen ตั้งใจสร้างยี่ห้อรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาใหม่ซึ่งจะเป็นรถมีที่ขายเล็กกระทัดรัด(เหมือน eco car บ้านเรา) ภายในปีหน้านี้ ซึ่งยี่ห้อนี้จะแตกออกไปเป็นบริษัทลูกในเครือของ Volkswagen ครับ เพราะ Volkswagen เล็งเห็นว่า demand (ความต้องการ)ของรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปและเอเชียนั้นเพิ่มขึ้นมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แถม 2 ทวีปนี้มีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องการขับรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 710,00 บาท(ไม่เกิน 20,000 ยูโร)

Volkswagen ได้บอกอีกว่าการสร้างบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขวัญใจวัยรุ่นสร้างตัว(หรือพวก Small SMEนั้น)จะเริ่มสร้างภายในปีหน้านี้อีกด้วย

การเปลี่ยนสถาปัตยกรรมมาเป็นรถ City car ในราคาที่คนทั่วไปเอื้อมถึงนั้นถือว่าเป็นโจทย์ใหญ่ของบริษัท Volkswagen เลยเพราะเราจำเป็นต้องโล๊ะเฟอร์นิเจอร์ทั้งภายในและภายนอกของรถออกไปเพื่อให้ต้นทุนต่ำกว่า Volkswagen I.D.3 (ค่าตัวประมาณ 1 ล้านบาท)

วิศวกรของเรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อหาวัสดุขนาดที่มีขนาดเล็กเพื่อมาประกอบรถยนต์ไฟฟ้าขนาด City car คันนี้โดยส่วนประกอบสำคัญที่วิศวกรของเรากำลังทำอยู่คือสร้างมอเตอร์ขนาดเล็กสำหรับรถขนาด City Carส่วนเรื่องแบตเตอรี่นั้นเราสามารถยืม Module ของรุ่นพี่ในตระกูล I.D. มาใช้ร่วมกันได้ แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือความปลอดภัยดังนั้นเราต้องสร้างรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีความปลอดภัยสูงในเวลาเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย(the high standard of crash protection)

Volkswagen

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคมปี 2019 นั้น CEO Herbert Diess ของ Volkswagen (คนด้านบน)ได้ออกมาบอกว่า VW(ย่อมาจาก Volkswagen)วางแผนจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าราคาต่ำกว่า 20,000 ยูโรผ่านบริษัทในเครือซึ่งอาจจะเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ Seat ก็เป็นได้ โดยรถรุ่นนี้จะมาทับไลน์การผลิตของ VW Up, Skoda Citigo หรือ Seat Mii ก็เป็นได้

รีวิวรถยนต์ไฟฟ้าโฟคสวาเกน e-up ราคาเริ่มต้น 6.5 แสนบาท(2 แสนโครน)โดยคุณตาม [Bjørn Nyland]
รูปภาพ : Skoda Citigo
รูปภาพ : Seat Mii

คอนเซ็ปท์ : more efficient in terms of synergies

more efficient in terms of synergies แปลว่า เป็นการทำงานร่วมสมัยให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยคอนเซ็ปท์นี้เป็นการร่วมทำงานระหว่าง Seat และ Volkswagen ซึ่งเจ้าภาพจะเป็น Volkswagen ครับ

พัฒนาระบบแบตเตอรี่ภายใต้ลิขสิทธิ์ MEB

รถยนต์ไฟฟ้าที่ Volkswagen ตั้งใจจะสร้างนี้จะมีขนาดความยาวไม่เกิน 4,000 mm ซึ่งจะพัฒนาระบบแบตเตอรี่ภายใต้ลิขสิทธิ์ MEB (Modular Electric Drive Matrix) platform 

ค่ายรถของเราไม่ว่าจะเป็นปอร์เช่, โฟคสวาเกน รวมไปถึงฟอร์ดซึ่งเป็นจับมือเป็นคู่ค้ากับเราในตอนนี้นั้นจะใช้รูปแบบในการผลิตเหมือนกันคือ MEB platform ซึ่งเป็นรูปแบบการผลิตที่ใช้ต้นทุนต่ำและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในรถได้มากกว่ารถยนต์น้ำมันแน่นอน

MEB platform นี่แหลจะเป็นอาวุธของพวกเราในการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก ซึ่งรู้ไหมว่า เราได้ทำการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วทั้งหมด 8 โรงงานทั่วโลก

โฟคสวาเกน
รูปภาพ : ตำแหน่งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 8 แห่งของโฟคสวาเกน

โดยรถรุ่นแรกที่จะใช้ MEB Platform เพื่อวางขายภายในเดือนกรกฎาคม 2563นี้(Summer) ก็คือ Volkswagen ID3 แหละครับซึ่ง Volkswagen ย้ำอีกว่า VW ID3 นั้นจะมาคว่ำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 แน่นอนเพราะมีราคาค่าตัวที่ถูกกว่า

หมายเหตุ : ราคาเริ่มต้นของ Tesla Model 3 อยู่ที่ 1.2 ล้านบาท($40,000) , ราคาเริ่มต้น VW ID3 อยู่ที่ 1 ล้านบาท ($33,000)

หน้าตา VW ID3

ที่มา : aedaily

BLINK DRIVE TAKE

ใจเย็นๆ กันสิครับ ผมแนะนำได้อย่างเดียวว่าอย่าเพิ่งซื้อรถยนต์น้ำมันใช้ปีนี้นะครับ เดี๋ยวปีหน้าคุณได้เห็นรถยุโรปในไทยพุ่งลงมาราคาใกล้เคียงกับรถญี่ปุ่นแน่นอนเพราะยุโรปเค้าไม่ใช้รถยนต์น้ำมันกันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และเป็นธรรมดาเนอะที่เค้าจะเอามาขายทอดตลาดในราคาถูกลงเพราะโล๊ะของเก่า

ในความเห็นส่วนตัวของผม ผมมองว่า อเมริกา, จีน, ยุโรป, และประเทศพัฒนาอื่นๆ อาจจะมียอดขายรถยนต์น้ำมันอยู่บ้าง แต่ผมมั่นใจว่าจะไม่กลับไปสูงเหมือนเมื่อก่อนแน่นอนครับ

https://www.prachachat.net/world-news/news-61937
ที่มา : http://www.94fmclub.net/news/detail/2052
ที่มา : ฐานเศษรฐกิจ

หมายเหตุ : บางคนบอกว่า 2030 นั้นอีก 10 ปีเลยน่ะเฟ้ย “ใจเย็นๆ ไอ่หนูมีเวลาอีก 10 ปีให้ใช้รถยนต์น้ำมัน” แต่ผมอยากจะเถียงกลับตรงนี้เลยนะครับว่า หลังจากจบ COVID-19 รอบนี้ ยุโรปจะทำการสังคายนา(แก้ไข)กฏหมายการแบนรถยนต์น้ำมันให้เร็วขึ้นเพราะเค้าเห็นแล้วว่ารถยนต์น้ำมันนั่นแหละเป็นตัวกลางของฝุ่นควันในเมือง

ไวรัส COVID-19 เป็นตัวพิสูจน์ว่า มลพิษทางอากาศในยุโรปนั้นมาจากการใช้รถยนต์น้ำมัน

และบอกตามตรงครับว่า ถ้าคุณรู้ว่าประเทศที่คุณอยู่นั้นจะแบนรถยนต์น้ำมันภายใน 10 ปีข้างหน้าแต่คุณกำลังวางแผนซื้อรถยนต์ภายในปีนี้หรือปีนี้

คุณจะเลือกซื้อรถยนต์น้ำมันหรือรถยนต์ไฟฟ้าครับ อย่าลืมนะครับถ้าแบนจริงคือใช้งานเลย 5 ปีไป ทั้งอะไหล่และสถานที่ซ่อมก็จะหายากแล้วเพราะใกล้ๆ ยุคเปลี่ยนถ่ายนั้น คงไม่มีใครบ้า stock ของที่อีก 5 ปีข้างหน้าจะไม่ใช้อีกแล้วหรอกครับ

ถ้าคุณอยากขับรถยนต์น้ำมันแบบสุดขาดใจกันขนาดนั้นก็รอปีหน้า(2021)ก็ได้ครับ เราได้เจอส่วนลดแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเหมือนที่ Chevrolet ทำเมื่อไม่นานมานี้ยังไงละครับ

ลองคิดคำนวณเล่นๆ จากข้อมูลด้านบนที่มากางตรงหน้าคุณนะครับ Volkswagen เตรียมเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมๆกัน 8 โรงทั่วโลก(ไม่มีไทยอยู่ในนั้นด้วย) ของใหม่ที่ผลิตขึ้นมานั้นจะมาทับของเก่า(รถยนต์น้ำมัน)แน่นอนแล้วของเก่าที่ขายไม่ได้จะหายไปไหนอ่ะครับ???

มันก็ถูกส่งมาที่ประเทศกำลังจะพัฒนาแล้วสินะครับหรือพูดอีกอย่างคือ ประเทศที่ไม่คิดจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าและมีรัฐทำการสร้างกำแพงภาษีดักรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ไงครับ

ผมคิดว่า “การเปลี่ยนตำแหน่งพวงมาลัยจากซ้ายไปขวานั้น มันง่ายกว่าเปลี่ยนไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงข้ามคืนนะครับ” ดังนั้นพวกเค้าแค่จับยัดเข้าโรงงานและเปลี่ยนตำแหน่งพวงมาลัยและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เพื่อให้รองรับประเทศกำลังพัฒนาและส่งออกไปขาย ดูเหมือนจะง่ายกว่าที่จะเปลี่ยนไปขายรถยนต์ไฟฟ้านะครับ

ปล. ด้านบนนี้เป็นความคิดส่วนตัวของผมนะครับ

ถ้าลองคิดในมุมผู้ประกอบการสิครับ เค้ามองว่า ยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลย พวกเราเพียงเก็บประเทศพัฒนาเอาไว้เป็นที่ระบายของตกรุ่นนะ แค่บังคับให้รัฐอย่าเพิ่งปล่อยให้มีการนำเข้าหรือผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงนี้ไปก่อน

Save โพสของผมเอาไว้นะครับ แล้วปี 2021 กลางปี(เดือนพฤษภาคม 2564) เราจะมาคุยกันเรื่องราคารถยนต์ยูโรปที่ลดลงมาพอๆกับรถยนต์ญี่ปุ่นพวกตัว Top อีกทีนะครับ

STAY TUNE, STAY WITH BLINK DRIVE

Follow by Email