ต้องเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าประเทศจีนนั้นมีผลกับกำลังซื้อของคนทั้งโลกอยู่มากโดยเฉพาะตลาดรถยนต์เป็นต้นครับ ตอนนี้ตลาดที่มีการซื้อ-ขายรถยนต์เยอะที่สุดในโลกนั้นก็คือจีนนั่นเอง ซึ่งเป็นเหตุให้ค่าย Jeep (จี๊ป)ต้องปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ไปตามความต้องการของตลาดใหญ่ด้วยนะครับ
แต่อย่าลืมว่าตลาดยุโรปซึ่งเล็กลงมาจากจีนนั้นก็บ้าคลั่งรถยนต์ไฟฟ้าใช่เล่น แถมสร้างกฏหมายหลากหลายชนิดมากีดกันรถยนต์น้ำมันอยู่เรื่อยๆ เช่น การตั้ง Low emission Zone ในเขตเมืองหลวง(โดยรถที่จะวิ่งผ่านโซนนี้ได้ต้องเป็นรถยนต์ประเภทที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเท่านั้น ไม่งั้นโดนค่าปรับหนักแน่นอนครับ) หรือจะเป็นการตั้งกำแพง carbon tax เพื่อบังคับให้ผู้ผลิตหันไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์น้ำมันที่ปล่อยควันเสียน้อยลงอย่างมาก เป็นต้น นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุปัจจัยที่ทำให้ Jeep ต้องหันไปพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าทั้ง Plug-in Hybrid และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 100%(BEV)
Jeep เตรียมขายรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่นภายในปีหน้า(2021)
ณ ปีนี้(2020) Jeep ได้นำเอารถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่นมาโชว์กับสาธารณชนที่งาน CES 2020 โดยมีรุ่นต่างๆ ดังนี้
Jeep รุ่น Compass
Jeep รุ่น Renegade
Jeep รุ่น Wrangler
แผนการณ์ของ Jeep กับรถยนต์ไฟฟ้า
ภายในปี 2020 นี้ Jeep ได้เอารถต้นแบบ (prototype car) ออกมาโชว์ในงาน CES 2020 ซึ่งรถทุกคันนั้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าชนิด plug-in hybrid ทั้งสิ้น ซึ่ง Jeep ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ครึ่งนึงของไลน์การผลิตรถยนต์ภายในปีหน้านี้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภท Plug-in และ รถยนต์ไฟฟ้า 100 % เท่านั้น
หลังจากปี 2021 เป็นต้นไป Jeep จะทำการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100 % (BEV) และหลังจากปี 2022 เป็นต้นไป Jeep จะวางขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มปีล่ะ 1 รุ่นไปเรื่อยๆ จนไลน์ผลิตทั้งหมดกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
ทำไมต้องเปลี่ยนมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้า?
อย่างที่ผมได้บอกไปตั้งแต่คำนำ (Introduction) ว่า ประเทศจีน(รวมไปถึงยุโรป)เริ่มสร้างมาตราการบีบบังคับพวกบริษัทผลิตรถยนต์มากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดนี้ จีนได้สร้างกฏหมายขึ้นมาใหม่คือ การคิดภาษีจากขนาดของเครื่องยนต์ โดยเครื่องยนต์ยิ่งมีขนาดใหญ่ ยิ่งโดนเก็บภาษีมากยิ่งขึ้น ทำให้ค่ายรถ Jeep ซึ่งผลิตเครื่องยนต์ขนาดใหญ่มาโดยตลอดต้องรีบปรับตัวไม่งั้นโดนปรับตังค์หมดตัวแน่นอนครับ
คุณ Meunier ซึ่งเป็น Global President Jeep (ประธานระดับโลก)ก็ได้สัญญาว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะเป็น “the best Jeeps ever built.” หรีอแปลว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นรถยนต์ที่ดีที่สุดที่ Jeep เคยสร้างขึ้นมาเลย
ที่มา : MOTOR1
BLINK DRIVE TAKE
ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ของตัวเองในปี 2016 หน่อยนะครับ
ผมเคยขับรถ Jeep รุ่น Compass อยู่ประมาณ 20 วันนะครับ ตอนนั้นรถของผมประสบอุบัติเหตุ(Total loss พังทั้งคัน) ทางบริษัทประกันก็ได้ให้รถเช่าจากบริษัท Enterprise มาให้ผมขับ ความรู้สึกแรกที่ได้เจอรถยี่ห้อนี้คือ เท่ห์, หล่อ, เข้ม มากๆ ครับ แต่หลังจากใช้ไปประมาณ 7 วันเริ่มรู้สึกว่าอยากเอารถไปคืนมากๆ เพราะเปลืองน้ำมันมากๆ ครับ ผมเลยสงสัยมากๆว่า มึงเอาเครื่องยนต์อะไรมาให้กูขับฟ่ะ ก็เลยเปิดฝากระโปรงรถดูก็ปรากฏว่าเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบธรรมดาๆ เหมือนรถญี่ปุ่น แต่ผมรู้สึกได้เลยว่า เปลืองน้ำมันมากๆ
ส่วนข้อดีของรถ Jeep ที่ผมมองว่าทำให้ฝรั่งหลายคนหลงรักคือความถึกทนและน้ำหนักของรถครับ ผมลองทดสอบเอา Jeep Compass ปี 2016 และ Ford escape ปี 2016 วิ่ง highway สลับกัน ปรากฏว่า Jeep นั้นเกาะถนนมากๆ รู้สึกว่าขับด้วยความเร็ว 75 mph (120 km/h) แล้วรถไม่สั่นหรือมีอาการอะไรเลย แต่กลับกันถ้าเป็น Ford Escape นั้นจะเห็นได้ชัดว่าพวงมาลัยเริ่มเบาและการทรงตัวเวลาเปลี่ยนเลนนั้นทำสู้ Jeep ไม่ได้เลยครับ
ในความเห็นของผมแล้ว ถ้าตัดเรื่องค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงออกไปแล้ว ถ้าให้ผมเลือกรถที่ต้องเอามาขับในชีวิตประจำวันจริงๆ ผมก็คงเลือก Jeep แหละครับ เพราะเวลาขับแล้วรู้สึกปลอดภัยจริงๆ แล้ว แต่บอกเลยว่า ถ้าผมยังฝืนขับรุ่นน้ำมันต่อไปอีกหน่อย เงินคงหมดกระเป๋าเป็นแน่แท้ครับ T_T
เอาละก่อนจากกันไป ผมอยากให้ทุกท่านกลับไปอ่านข้อความเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ Jeep ต้องเปลี่ยนมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้านะครับ จีนกดดัน Jeep ได้ขนาดนี้เลยนะครับ โดยเอาภาษีเครื่องยนต์มาขูดรีดบริษัทผลิตรถยนต์ให้เลิกผลิตรุ่นที่ใช้น้ำมันกันได้แล้ว
ส่วนไทยทำตรงกันข้ามครับ ใช้กำแพงภาษีสรรพสามิตขูดรีดบริษัทนำเข้ารถยนต์ต่างๆ ไม่ให้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างอิสระโดยสร้างกำแพงภาษีหน้าเลือด 200% ขึ้นมา
อย่าอ้างว่าสร้างเพื่อส่งเสริมให้บริษัทผลิตรถยนต์หันมาผลิตแทนนำเข้านะครับ เพราะพวกเราไม่เห็นเอกสารว่า เทสล่าหรือ GM จะวางแผนเข้ามาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศเลยครับ เห็นแต่เค้าปิดโรงงานออกจากประเทศไทยเพราะนโยบายของเค้าคือผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครับ
ส่วนจะบอกว่า ไม่มีใครสนใจผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
ผมมองว่า เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้นครับ โอกาสมันไม่เดินมาหาเรานะครับ เราต้องเดินไปหาโอกาส ทำไมต้องรอให้ผู้ประกอบการอย่าง Tesla เดินเข้ามาขอเราสร้างโรงงานด้วยครับ ในเมื่อต่างประเทศอย่างปากีสถานพร้อมยื่นข้อเสนอมากมาย(เช่น ลดหย่อนภาษีให้ 10 ปีเต็มๆ เป็นต้น)ให้เทสล่าไปลงทุนในประเทศของเค้า แล้วเค้ามีเหตุผลอะไรจะมาลงทุนในประเทศที่สร้างกำแพงภาษีแบตและสร้าง BOI สนับสนุนรถยนต์น้ำมัน Hybrid แทนรถยนต์ไฟฟ้าด้วยครับ
ฝากให้คิดนะครับว่า ถ้าเราไม่ปรับเปลี่ยนจริงๆ เราจะไม่เหลือทรัพยากรและโรงงานให้ลูกหลานเราได้เข้าไปทำงานกันครับ