เรื่องราวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เทสล่าประกาศว่าจะสร้าง gigafactory แห่งที่ 4 ของโลกที่ประเทศเยอรมันครับ ทำให้ประเทศปากีสถานขอแทรกประมาณว่า มาสร้างที่ประเทศของเราเถอะ เรายื่นข้อเสนอเหนือกว่าทุกประเทศบนโลก(รวมถึงจีน)ด้วยเลย อยากได้อะไรบอกมา เราสนับสนุนหมดแน่นอน
ยื่นข้อเสนอไม่เก็บภาษี 10 ปี
คุณ Fawad Hussain ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศปากีสถานได้พิมพ์ twitter หา อีลอน มัคส์(เจ้าของ tesla)ว่า
เรียน อีลอน, เราขอเสนอยกเว้นภาษี 10 ปีสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกค่างๆ และไม่คิดภาษีนำเข้าเครื่องจักรใหญ่และเล็กต่างๆ ที่จะต้องเอามาใช้งานสร้างโรงงาน(factory setup), รับรองได้เลยว่า เราเป็นประเทศเดียวในโลกที่ยื่นข้อเสนอดีและมากกว่าทุกที่บนโลก อย่าลืมนะว่า ประเทศปากีสถานนั้นผลิตวิศวกรด้านซอฟแวร์เป็นอันดับ 3 ของโลก
คุณ Fawad Hussain กล่าวเอาไว้ใน twitter
ราคา Tesla Model S เริ่มต้นที่ 2.3 ล้านบาทในประเทศปากีสถาน
ราคาจำหน่าย tesla model s รุ่น 75D ในประเทศอเมริกานั้นอยู่ที่ $58,570 หรือ 1.8 ล้านบาท พอนำเข้าไปจำหน่ายที่ปากีสถานแล้วราคารวมภาษีนำเข้าของประเทศปากีสถานแล้วอยู่ที่ $74,500 หรือ 2.3 ล้านบาท
ที่มา : pakwheel.com
ส่วนประเทศไทยนั้นจำหน่าย tesla model s อยู่แถวๆ 7 ล้านบาทนะครับ
แปลกใจจังเลย พอเป็นรถยนต์ไฟฟ้าปุ๊บ ราคาโดดกันปั๊บเลยครับ
BLINKD DRIVE TAKE
ตอนนี้ คณะผู้นำแต่ล่ะประเทศต่างแห่กันไปจีบเทสล่ามาลงทุนในประเทศของตน พอหันกลับมามองไทยแล้ว ผมยังเห็นข่าวเบาๆ อยู่เลยว่า “เทสล่าโตได้เพราะขายข่าวมาปั่นหุ้น” มันบ่งบอกถึงการศึกษาของผู้ใหญ่ในไทยเลยนะครับ แปลกใจจังเลย ฝุ่น PM 2.5 เต็มเมืองหลวง แต่เรากำลังพยายามกีดกันรถยนต์ไฟฟ้าทุกวิถีทาง แทนที่จะเดินตามประเทศต่างๆ ในยุโรป,อเมริกา, อินเดีย, ปากีสถาน, และออสเตรเลีย
จริงๆ ถ้าท่านใดคิดว่า รถยนต์น้ำมันมีอนาคตกว่ารถยนต์ไฟฟ้า เช่น ขายดีกว่า, ไปต่อได้ไกลกว่า, ประหยัดค่าเชื้อเพลิงมากกว่า, ไม่มีค่าซ่อมแซมภายในระยะเวลา 5-10 ปี, ราคาถูกลงเรื่อยๆ, ฯลฯ ผมขอชวนผู้ใหญ่เหล่านั้นทำ clip review หรือรายการเป็นภาษาอังกฤษแล้วเปิด feature ให้ทุกคนบนโลกสามารถเข้าไป comment กันหน่อยนะครับ
ส่งมาให้ผมช่วยแชร์ก็ได้ครับ แต่ขอเป็นภาษาอังกฤษนะครับ ผมจะช่วยแชร์ให้ถึงรายการ top gear และ CNN เลยครับ
ถ้าจะฝากอะไรในโพสนี้ถึงรัฐบาลไทยได้ ผมขอฝากข้อความด้านล่างนี้ล่ะกันครับ
“โอกาสมันไม่เดินมาหาเราหรอก, เราต้องเดินไปหาโอกาสครับ”
อยากจะฝากบอกว่า เราต้องเลิกคิดว่าประเทศตัวเองเป็นหนึ่งในใต้หล้าของอุตสาหกรรมรถยนต์ได้แล้วครับ การทำตัวเย่อหยิ่งโดยไม่ไปเชิญเค้ามาลงทุน(หรือยื่นข้อเสนอพิเศษเหนือกว่าประเทศจีน) ผมกลัวว่าพวกเราจะกลายเป็นประเทศโกดักสองโดยไม่รู้ตัวนะครับ
อินโดนีเซียก็ได้โตโยต้าไปเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว
จีนก็ได้โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากเทสล่า, โฟคสวาเกน, เบ็นซ์, นิสสัน, และอื่นๆอีกมากมายแล้ว
เวียดนามก็ได้ panasonic ไปเปิดโรงงานผลิตแบตรถยนต์แล้ว
นี่ปากีสถานกำลังจะแซงเราแล้วนะครับ
ไทยเราจะไม่ทำอะไรหน่อยหรอครับ?