Blink Blink
EV CarsTesla

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ในอเมริกาปี 2562 เพิ่มขึ้น 10 % สวนทางยอดขายรถยนต์น้ำมันในไทยติดลบ 3 %

ต้องยอมรับเลยว่า Tesla นั้นแน่จริงๆ ครับ เพราะยอดขายรถยนต์ทั้งโลกไม่ว่าจะเป็นอเมริกา, จีน, ยุโรปรวมไปถึงไทยนั้นติดลบกันทุกประเทศ แต่เทสล่าสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ออกไปได้มากถึง 154,836 คันในปี 2562 ที่ผ่านมา

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า tesla Model 3 เพิ่มขึ้น 10 % จากปี 2018

ถ้ามองจากกราฟด้านล่างนี้แล้วจะเห็นได้เลยว่ายอดขายปี 2562 (2019)นั้นห่างจากปี 2561(2018)มากถึง 15,106 คัน ส่วนม้ามืดที่ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะเข้ามาแซงแรงๆ ก็คือ Audi E-tron ที่ขว้ายอดขายในอเมริกาไปมากถึง 5,369 คันในปี 2562 นี้

ที่มา : cleantechnica

ยอดขายรถยนต์ที่ไทยติดลบ 3 %

“ยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2562 ลดลง 3 % โดยมียอดขายอยู่ที่ 1,007,552 คัน แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ยังถือได้ว่าเป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของตลาดถยนต์ไทยที่มียอดขายถึงระดับ 1 ล้านคัน ถึงแม้ว่าตลาดรถยนต์มีการหดตัวอย่างเห็นได้ชัดในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่เดือนกันยายนผ่านมา”

สถิติการขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2562
– ปริมาณการขายรวม          1,007,552 คัน         -3.3 %
– รถยนต์นั่ง                            398,386 คัน         -0.3 %
– รถเพื่อการพาณิชย์              609,166 คัน          -5.1 %
– รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 492,129 คัน  -3.8 %
– รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 431,677 คัน -3.4 %

ที่มา : marklines

สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ของปี 2563 ซึงาตะ คาดการณ์ว่า “ปีนี้นับเป็นปีที่ท้าทายอีกปีหนึ่ง สำหรับตลาดรถยนต์ไทย เนื่องจากตลาดรถยนต์ยังคงเผชิญกับหลายปัจจัย จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน และมาตรการควบคุมสินเชื่อรถยนต์ที่มีความเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้นเราจึงคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์รวมในประเทศจะอยู่ที่ 940,000 คัน ลดลงประมาณ 7 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”

ที่มา : autoinfo

ถ้าดูภาพรวมของตลาดแล้วมีเพียงโตโยต้า, MG และ มิตซูบิชิเท่านั้นที่สามารถยืนหยัดและสร้างยอดขายเพิ่มได้

ยอดขายเดือนธันวาคมร่วง 20 %

แต่สิ่งที่ผมอยากให้ดูคือเดือนธันวาคมปี 2562 ที่ผ่านมานั้น ยอดขายรถยนต์ต่างๆ ในไทยนั้นร่วงถึง 20% แต่เพียงยี่ห้อเดียวที่สามารถทำยอดขายเป็นบวกได้นั่นก็คือ ค่ายรถยนต์ MG ครับ

ที่มา : marklines

ผมได้ทื้งตารางยอดขายรถยนต์ในไทยเอาไว้ด้านล่างนี้ด้วยเผื่อใครต้องการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงนะครับ

Maker/Brand20192018Y-o-Y20192018Y-o-Y
Dec.ShareDec.ShareJan.-Dec.ShareJan.-Dec.Share
Toyota29,44733.0%31,06027.3%-5.2%331,87832.9%314,49830.2%5.5%
Isuzu15,76717.7%21,92319.3%-28.1%168,21516.7%177,86417.1%-5.4%
Honda9,53710.7%13,28911.7%-28.2%125,83312.5%128,29012.3%-1.9%
Mitsubishi7,3518.2%9,2768.2%-20.8%88,2448.8%84,5608.1%4.4%
Nissan4,8425.4%8,2587.3%-41.4%64,4146.4%72,3946.9%-11.0%
Mazda4,6305.2%7,1196.3%-35.0%58,1295.8%70,4756.8%-17.5%
Ford4,6035.2%5,9125.2%-22.1%50,0065.0%66,0646.3%-24.3%
MG2,9513.3%2,8122.5%4.9%26,5162.6%23,7402.3%11.7%
Suzuki1,5881.8%3,2542.9%-51.2%23,9082.4%28,5032.7%-16.1%
Chevrolet1,5191.7%3,0662.7%-50.5%15,1611.5%20,3131.9%-25.4%
Others7,0507.9%7,6126.7%-7.4%55,2485.5%55,0385.3%0.4%
Total89,285100.0%113,581100.0%-21.4%1,007,552100.0%1,041,739100.0%-3.3%

ที่มา : marklines

BLINK DRIVE TAKE

ผมคิดว่า คำถามแรกที่ติดใจทุกคนที่เข้ามาอ่านโพสของผมคือ ทำไมต้องเอายอดขายรถยนต์ไฟฟ้ามาเปรียบเทียบกับยอดขายรถยนต์น้ำมันด้วย?

คำตอบง่ายๆ คือ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอเมริกานั้นพุ่งขึ้นเอาอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปีและไม่มีท่าทางจะลดลงเลย แต่ประเทศไทยตอนนี้ ผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้ยอดขายรถยนต์น้ำมันสะดุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ตามหลักการแล้วคือ ถ้ารถยนต์ยังขายดีอยู่ ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าขายดีขึ้นแบบนี้ รถยนต์น้ำมันก็ต้องขายดีขึ้นไปด้วยสิครับ (นี่ผมยังไม่เอายอดส่งออกมาคุยกันนะครับ แต่เท่าที่ทราบมาคือตัวเลขอยู่แถวๆ 20 % ครับ

การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนธันวาคม 2562 ส่งออกได้ 72,265 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2561 ร้อยละ 24.26 โดยส่งออกลดลงเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ส่งออกชะลอตัวลงจากสงครามการค้า มีมูลค่าการส่งออก 37,595.95 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2561 ร้อยละ 20.58

ที่มา : autoinfo

มันถึงเวลาที่ไทยควรมองกระจกหลังหรือยังครับ?

หรือข้อมูลที่ผมโพสมานี้มันยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนใจผู้ผลิตหรือภาครัฐให้หันไปมองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้เลย ถ้าไม่เปลี่ยนกันวันนี้ อนาคตอันใกล้นี้ ไทยอาจจะเป็นประเทศโกดักสองก็ได้นะครับ

แล้วคุณล่ะคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไรกันบ้างครับ?

STAY TUNE, STAY WITH BLINK DRIVE

Follow by Email