ก่อนอื่นเลย ข่าวนี้ได้มีการเผยแพร่ไปเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2019 ผ่านเว็บ caronline.net แล้ว ซึ่งตอนนั้นเป็นเพียงข่าวประกาศเฉยๆ ว่า นิวยอร์คกำลังพยายามนำรถเก็บขยะ(พลังงานไฟฟ้า)มาใช้งาน ซึ่งในมุมมองของ Blink Drive ในตอนนั้น รถเก็บขยะคันนั้นคือ concept car (แปลว่า รถที่สร้างออกมาเอาฮา ไม่ได้ต้องการขายเพื่อทำกำไร)
แต่มาปีนี้ ณ วันที่ 12 มกราคม 2020 เป็นวันที่หน่วยงานเก็บขยะของเมืองนิวยอร์คมาตัดริบบิ้นเปิดงานและเริ่มการใช้งานกันอย่างจริงจังแล้วครับ ตอนนี้รถคันนั้นในปี 2019 ได้กลายร่างเป็น Production Car [แปล – รถที่ผลิตออกมาเพื่อขายและใช้งานจริงบนท้องถนนแล้วครับ]

Photo: John Hitch/Fleet Owner
เอาละ เรามาดูกันดีกว่าว่า เค้าวางแผนจะใช้งานแบบไหน, กี่คัน, และแนวทางการบริหารเมืองของเค้านั้นเป็นยังไง แต่ก่อนอื่นเลย ผมจะพาทุกคนไปรู้จักหน่วยงาน DSNY กันก่อนนะครับ
DSNY- หน่วยงานสุขาภิบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก
DSNY ย่อมาจาก New York City Department of Sanitation โดยหน่วยงาน DSNY นี้ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นหน่วยงานสุขาภิบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีบุคลากรต่างๆ ดังนี้
- เจ้าหน้าที่สุขาภิบาลในเครื่องแบบ 7,201 คน
- เจ้าหน้าที่พลเรือน 2,041 คน
- รถเก็บขยะทั่วไป 2,236 คัน
- รถเก็บขยะเฉพาะทาง 275 คัน
- รถกวาดพื้น 450 คัน
- รถกวาดหิมะ 365 คัน
- รถตักเทหน้า( front end loaders ) 298 คัน
- รถยนต์ช่วยเหลือทางด้านเทคนิคต่างๆ 2,360 คัน
โดยหน่วยงานนี้สามารถรับมือกับขยะ(ทั้งแบบรีไซเคิลและเน่าเสีย)ในเมืองนิวยอร์คมากถึง 12,000 ตันต่อวัน
ที่มา : wikipedia

เรียกได้ว่า หน่วยงานเก็บขยะของนิวยอร์คนั้นยิ่งใหญ่และทุกคนที่เข้ามาทำงานนั้นต้องเรียนหลักสูตรของสุขาภิบาลด้วยไม่งั้นไม่สามารถทำงานนี้ได้ ถือว่า เป็นอาชีพที่มีเกียรติมากๆ อาชีพหนึ่งในประเทศอเมริกาไปเลยครับ

ทำไมรถเก็บขยะต้องใช้พลังงานไฟฟ้า?
อ้างอิงจากข้อมูลด้านบนนะครับ รถเก็บขยะในเมืองนิวยอร์คแค่เมืองเดียวนั้นมีถึง 2,236 คัน แต่ล่ะคันจะวิ่งเก็บขยะราว 50 กม. ในแต่ละวัน และต้องทำงานในลักษณะของการหยุดเก็บขยะ และวิ่งออกไปยังอีกจุดหนึ่ง ซึ่งทำให้รถบรรทุกเครื่องยนต์ดีเซล ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น เค้าจึงต้องหารถประเภทอื่นมาทดแทน
ดูจากเส้นทางด้านบนแล้ว (50 km ต่อวัน) ถือว่า เป็นเส้นทางที่สั้นมากๆ แต่ทว่า วันนึงนั้นรถเหล่านี้จะต้องอยู่บนท้องถนนประมาณ 6-8 ชั่วโมงและไม่ได้ดับเครื่องเลยระหว่างปฏิบัติหน้าที่เพราะรถนั้นต้องใช้ระบบไฮดรอลิคสำหรับการอัดขยะและการยกดั้มพ์ด้านหลัง ลำพังจะเอาแบต 12 volts ที่ติดมากับรถทำงานเหล่านี้ก็เกรงจะไม่ไหว ดังนั้นเวลาอัดขยะเหล่านี้ รถก็ต้องสตาร์ทเครื่องทิ้งเอาไว้นะครับซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานและก่อให้เกิดควันไอเสียรังควานคนหรือรถที่สัญจรไป-มาบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก
การใช้งานระยะทางสั้นๆ แบบนี้นั้น ระบบพลังงานไฟฟ้าจะได้เปรียบกว่ามากๆ เพราะรถยนต์ไฟฟ้านั้นมี range ประมาณ 300-400 km ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และเวลาจอดเฉยๆ ก็ไม่ได้ปล่อยไอเสียอะไรบริเวณนั้น แถมตอนอัดขยะก็ยังดึงไฟโดยตรงจากแบตเตอร์รี่รถแทนที่จะใช้วิธีปั่นไฟจากเครื่องยนต์ดีเซลซะอีก แถมอีกเรื่องคือเรื่องการบำรุงรักษา เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าทุกชนิดนั้นทำงานเหมือนกัน ทำให้มีอะไหล่น้อยกว่ารถยนต์น้ำมันมากๆ (รถยนต์ไฟฟ้ามีอะไหล่เพียง 80 ชิ้นเท่านั้น แต่รถยนต์น้ำมันมีถึง 3,000 ชิ้น) ก็คิดดูกันเอาเองแหละครับว่า ถ้าคุณเป็นผู้บริหารที่อยากลดค่าใช้จ่ายบริษัทแล้ว อยากสร้าง CSR [ Corporate Social Responsibility คือ ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร] แล้วล่ะก็ การหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์น้ำมันดีเซลก็เหมือนการยิงปืนนัดเดียวได้นกถึง 2 ตัวเลยทีเดียว

รถเก็บขยะยี่ห้ออะไรนะ?
รถเก็บขยะพลังงานไฟฟ้าคันนี้ยี่ห้อ Mack รุ่น LR Electric ครับ
ณ ปัจจุบันนั้น ค่าย แม็ค Mack ผู้ผลิตรถบรรทุก ซึ่งรวมทั้งบรรดารถโดยสารที่วิ่งในเมืองนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงาน DSNY มาอย่างช้านาน โดย 99 % ของรถบรรทุกทุกชนิดในหน่วยงาน DSNY นั้นยี่ห้อ Mack หมดเลยครับ

Photo: John Hitch/Fleet Owner
รถเก็บขยะไฟฟ้า Mack LR Electric นั้นจะเป็นทัพหน้าที่โชว์ประสิทธิภาพของบริษัทเราไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เกียร์รถบรรทุกไฟฟ้า, ความเงียบในการทำงาน, ไร้มลพิษทางอากาศ, และฟังชั่นการเก็บขยะต่างๆ อีกด้วย ซึ่งพวกเราสร้างรถคันนี้มาให้แข็งแกร่งเพื่อพร้อมรับมือกับสิ่งแวดล้อมอันโหดร้าย(หนาวจัด, ร้อนจัด)และการจอดรถแบบถี่
Jonathan Randall, ผู้บริหารสูงสุด( senior vice president ) สาขา อเมริกาเหนือ
หมายเหตุ : รถเก็บขยะนั้นต้องแวะจอดบ่อยมากๆ ซึ่งระหว่างการใช้งานรถยนต์น้ำมันนั้น พบเจอปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์มากมายหลายอย่าง (เช่น คลัช, เกียร์, และผ้าเบรค เป็นต้น) เพราะรถยนต์มันไม่ได้ออกแบบมาให้แวะจอดวันล่ะ 100 ครั้งนะครับ ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าทำได้ชิวๆ ออกตัวก็มอเตอร์ซึ่งแรงบิดมาถึง 4,051 ฟุตปอนด์ ตั้งแต่ 0 รอบอยู่แล้ว ส่วนพวกรถยนต์น้ำมันนั้น ต้องเร่งเครื่องเพื่อจะออกตัวเพราะกว่าแรงบิดจะมากก็ปาไป 2-3 พันรอบครับ
สเปครถเก็บขยะพลังงานไฟฟ้า Mack LR Electric
- ขับเคลื่อน 4 ล้อ( มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว วางหน้าและหลัง)
- ระบบขับเคลื่อน : มอเตอร์AC ขนาด 130 kW จำนวน 2 ตัว
- เกียร์ : 2 สปีด
- ความแรง 496 แรงม้า
- แรงบิด 4,051 ฟุตปอนด์
- แบตเตอรี่ ลิเธียม-แมงกานีส โคบอลท์( NMC lithium-ion batteries (Lithium Nickel Manganese Cobalt Oxide) ขนาด 600 โวลต์ (120 kWh)
- ระบบชาร์จไฟ DC ความเร็วสูงสุดที่ 150 kW
- น้ำหนักรถ(รวมแบต) : 72,000 ปอนด์ หรือ 32,658 กิโลกรัม


Photo: John Hitch/Fleet Owner

Photo: John Hitch/Fleet Owner
นอกจากนั้น รถบรรทุกนี้ ยังมีระบบไฟฟ้า 12 โวลต์ เพื่อการใช้งานแสงสว่าง, อุปกรณ์เพิ่มเติม และระบบเครื่องเสียง อื่นๆ และระบบไฟฟ้าขนาด 24 โวลต์ เพิ่มอีกหนึ่งชุด เพื่อการใช้งานของระบบไฮดรอลิค สำหรับการอัดขยะ และการยกดั้มพ์ด้านหลัง ซึ่งจำเป็นต้องใช้งานในระหว่างการเก็บขยะในแต่ละจุด ตลอดเส้นทางของการเก็บขยะ
หลังจากเสร็จสิ้นการทำงานแต่ละวัน แม็ค ใช้การเชื่อมต่อเพื่อการชาร์จ ด้วยระบบชาร์จด่วน ดีซี ขนาด 150 กิโลวัตต์ ในเวลาทั้งคืน
ที่มา : caronline
BLINK DRIVE TAKE
หลังจากอ่านเรื่องราวด้านบนไปแล้ว ผมขอสรุปสาเหตุที่เค้าเลือกรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้งานแทนรถเก็บขยะดีเซลนะครับ
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเติมเชื้อเพลิง : แบต 120 kWh นั้นเสียค่าไฟประมาณ 120 หน่วยหรือเทียบเท่า 480 บาท
- ประหยัดค่าซ่อมบำรุง : รถยนต์ไฟฟ้าทุกชนิดไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือบำรุงทุกๆ 10,000 km (บางคันวิ่งไป 100,000 km แล้วยังไม่เคยเข้าศูนย์เลย อ้างอิง รีวิวรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว 100,000 km!!! )
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : รถเก็บขยะนั้นต้องวิ่งทั้งวันและคืน (การเอาควันผิดพ่นไปรอบเกาะแมนแฮ๊ตตันตั้ง 2,306 คันต่อวันแบบนี้ ก็เท่ากับฆ่าประชาชนทางอ้อมแหละครับ) ดังนั้นเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยควันเสียแบบนี้ ประชาชนจะกลับมารักรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐมากยิ่งขึ้น
- แรง & เร็ว : มอเตอร์ 130 kW ตั้ง 2 ตัว คิดว่า หลังเลิกงานแล้วสามารถเอารถเก็บขยะคันนี้ไปลงสนาม Drag ต่อได้เลย เพราะความแรงประมาณ 496 แรงม้านั้น สามารถตบพวกรถ eco car ในสนาม drag สบายๆ ครับ