จริงๆ แล้ว Tesla ได้ปล่อยชุด update มาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาแล้ว โดยจะเพิ่มความแรงให้แก่ Tesla Model 3 แต่ล่ะรุ่นอยู่ที่ 5 % จากเดิม
อย่าง Tesla Model 3 รุ่น performance นั้นแรงขึ้นมาจากเดิมหน่อยๆ คือ อัตราเร่ง 0 – 100 km/h เดิมอยู่ที่ 3.6 วินาที แต่พอได้รับชุด software update ตอนเดือนพฤศจิกายนเข้าไปปรากฏว่า อัตราเร่ง 0-100 km/h ใหม่อยู่ที่ 3.0 วินาที
มาเดือนนี้(ธันวาคม) Tesla ปล่อยชุด update มาใหม่ครับ โดยเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า tesla model 3 ทุกคนสามารถเข้าไปสั่งซื้อชุด update ชุดนี้ที่เว็บไซต์ tesla.com นะครับ
ผมขอสรุป feature ต่างๆ ของชุด update เดือนธันวาคมนี้ :
- ชุด update ชุดนี้มีชื่อเรียกว่า Acceleration Boost Upgrade ราคา software อยู่ที่ $2,000 หรือ 60,000 บาท
- เพิ่มแรงม้าให้แก่รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 LR AWD ประมาณ 85 แรงม้า
- มีจำหน่ายให้กับ Tesla Model 3 เฉพาะรุ่น Long Range และ AWD (ขับ 4) เท่านั้น
- เพิ่มอัตราเร่ง 0-100 km/h ขึ้นมาอีก 0.5 วินาทีทุกคัน
- อย่าง Tesla Model 3 ตัวขับ 4 (4WD) นั้นมีอัตราเร่ง 0-100 km/h เก่าอยู่ที่ 4.5 วินาที, พอโดนชุดนี้เข้าไปแล้วอัตราเร่งใหม่ทำได้ที่ 3.89 วินาที
ที่มา : teslarati
ส่วนใครที่สงสัยว่าอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นมา 0.5 วินาทีนั้นเร็วขึ้นแค่ไหนก็สามารถรับชมคลิปทดสอบรถ tesla model 3 รุ่นเดียวกันโดยมีแค่คันเดียวที่ทำการ update software มาแล้ว
BLINK DRIVE TAKE
ถ้าถามผมว่าุ ชุด update นี้คุ้มไหม ก็ตอบตามตรงเลยว่า ไม่คุ้มครับ เพราะชีวิตประจำวันของผมนั้นไม่ได้ต้องการความเร็วขนาดนั้นบนท้องถนนทุกครั้งที่ออกตัว แต่ถ้าคุณเน้นขับสนุกจริงๆ และเป็นสายแต่งรถซิ่ง ผมว่า ราคานี้ถือว่าคุ้มมากๆ นะครับ ลองคิดกลับกันดูว่า ถ้าต้องแต่งรถให้ได้ความแรงเพิ่มขึ้น 5 % หรือวิ่งไวขึ้นจากเดิม 0.5 วินาที ผมว่า ต้องเสียเงินมากกว่านี้แน่นอน เช่น เปลี่ยนท่อ, เปลี่ยนหัวฉีด, เดินรางน้ำมันใหม่, เปลี่ยนปั้มติ๊ก, เปลี่ยนหัวเทียนใหม่, ใส่เทอร์โบ ฯลฯ แถมของเหล่านี้พอแต่งไปแล้วต้องบำรุงรักษามันทุกเดือนไม่งั้น รถวิ่งไม่ปกติแน่นอน
ปล. ถ้าอัตราเร่ง 0-100 km/h ของรถคุณอยู่แถวๆ 6 – 7 วินาทีนั้น อาจจะไม่คุ้มหรอกครับ แต่ถ้าอัตราเร่งรถยนต์น้ำมันของรถคุณอยู่แถวๆ 3-4 วินาทีอยู่แล้ว และต้องการไปให้สุด ราคา 60,000 บาทก็ถือว่าคุ้ม จริงไหมครับ?
แต่ถึงอย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมครับ ไม่ได้บอกว่า ความคิดผมนั้นจะใช้ได้กับรถยนต์ทุกคัน เพราะการใช้งานรถยนต์ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันอย่างแน่นอนครับ เช่น บางคนต้องการใช้งานรถยนต์ที่มีความแรงเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการแซง, บางคนต้องการรถที่มีแรงบิดมากเพราะต้องใช้ขึ้นเขาบ่อยๆ บางคนอยากประหยัดค่าเชื้อเพลิง ,หรือบางคนต้องการใช้งานรถยนต์ที่ประหยัดค่าซ่อมบำรุง ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าตอบโจทย์หมดซะงั้น มีอย่างเดียวที่ทำได้ไม่ดีกว่ารถยนต์น้ำมันคือ ความเร็วในการเติมเชื้อเพลิงครับซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยว่าจะทำได้เร็วกว่ารถยนต์น้ำมันภายในช่วง 5-10 ปีนี้นะครับ
