Blink Blink
EV Carsvolk swagen

[ข่าวแปล : รอยเตอร์] โฟค สวาเกนเร่งสร้างรถยนต์ไฟฟ้าในจีน ตั้งเป้าขายครบ 1 ล้านคันภายในปี 2565(2022)

โฟค สวาเกน(ค่ายรถเยอรมัน) ออกตัวแรงเลยครับรอบนี้ ประกาศ สงครามรถยนต์ไฟฟ้ากับเจ้าพ่อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla อย่างเต็มตัว โดยบอกว่า จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้มากถึง 1 ล้านคันภายในปี พ.ศ. 2565 หรืออีก 3 ปีต่อจากนี้

สิ่งที่ทำให้โฟค สวาเกนมั่นใจกับคำพูดนี้ก็เพราะว่า พวกเค้าได้ไปตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนถึง 2 โรงงานด้วยกัน โดยทั้ง 2 โรงงานนี้สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาได้ถึง 600,000 คันต่อปี โรงงานทั้งสองแห่งนั้นยังอยู่ในระหว่างการสร้างนะครับ คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปีหน้า(2563) โดยนโยบายหลักของการผลิตคือ เน้นใช้หุ่นยนต์(robot arm) ในการประกอบรถยนต์ให้มากยิ่งขึ้น เพราะหุ่นยนต์นั้นไม่ต้องพัก ไม่ต้องลาป่วย เหมือนมนุษย์ครับ

รูป : เครื่องจักร robot arm ภายในโรงงานผลิตรถยนต์โฟค สวาเกน เมือง Zwickau ประเทศเยอรมัน ถ่าย ณ วันที่ 13 กันยายน 2019. ขอบคุณภาพจาก REUTERS นาย Joe White

โดยสินค้าล๊อคแรก(รถยนต์ไฟฟ้าในปี 2021 หรือ 2564) นั้นจะเริ่มผลิตจากโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า(โฟค สวาเกน) เมือง Zwickau ประเทศเยอรมัน ซึ่งจะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้า VW ID มากถึง 330,000 คันภายในปี 2564 แน่นอนครับ

รถยนต์ไฟฟ้า VW ID

หันกลับมาดูทางเทสล่ากันบ้าง เทสล่าประกาศว่า จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 500,000 คันต่อปี ณ โรงงานผลิตรถยนต์ Gigafactory 3 เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนนั่นเอง ถ้าเทสล่าทำอย่างที่พูดจริงๆ ล่ะก็ แสดงว่า โฟค สวาเกนวางแผนที่จะเอาชนะเทสล่าเรื่องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2565 อย่างแน่นอนครับ

นายแม๊ก วอร์เบอร์ตัน นักวิเคราะห์จากบริษัท เฮาส์เซน เบอร์นสไตน์ จำกัดได้กล่าวเอาไว้ว่า “การจะกระโดดเข้ามาในตลาดรถยนต์นั้นถือเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก เพราะการสร้างรถนั้นทำยากมาก ยิ่งจะเปลี่ยนแปลงบริษัทของตัวเองให้สร้างแต่รถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ยิ่งต้องเสียเงินเยอะขึ้นไปอีก เพราะไลน์การผลิตของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์น้ำมันนั้นเกือบจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”

ที่มา : CBNC

MEฺB ไพ่ตายจากโฟค สวาเกน

MEB platform หรือย่อมาจาก Modularer E-Antriebs-Baukasten หรือการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าแบบโฟค สวาเกน คือ สร้างแบตและมอเตอร์ให้อยู่ใต้ห้องโดยสารทั้งหมดนี้ จะเป็นไพ่ตายของเครือ โฟค สวาเกน ได้แก่ Audi, SEAT, Škoda, Porsche, และ Volkswagen นั่นเองครับ

โดยเจ้า MEB platform นี้ออกแบบมาให้ง่ายต่อการสร้างและการซ่อมบำรุงครับ ดังนั้นต้นทุนรถยนต์ไฟฟ้าของโฟค สวาเกนจะลดลงเหลือเพียง 20,000 ยูโรต่อคันหรือ 670,000 บาทต่อคันเท่านั้น (เห้ย ถูกกว่า honda civic ซะอีก!!)

เครือ โฟค สวาเกนนี่ใหญ่แค่ไหน?

ก่อนอื่นเลย ผมอยากบอกว่า บริษัทที่ผลิตรถยนต์ได้เยอะที่สุดในโลกมาตลอดเวลาคือ โฟค สวาเกนนะครับ ทุกคนอาจจะคิดว่า โตโยต้านี่แหละที่เป็นเจ้ายักษ์ใหญ่ของตลาด โหะๆ บอกเลยว่า คิดผิดครับ นอกประเทศไทยนั้น โฟค สวาเกนนั้นใหญ่เอามากๆ เครือของเค้านั้นประกอบไปด้วย

  1. โฟค สวาเกน
  2. อาวดี้
  3. ซีท
  4. สโกด้า
  5. เบนท์เล่ย์
  6. บูกาติ
  7. แลมโบกินี่
  8. ปอร์เช่
  9. ดูกาติ
  10. สกาเนีย
  11. MAN

BLINK DRIVE TAKE

เอาจริงๆ นะครับ ในเรื่องการผลิตรถยนต์นั้น บริษัทผลิตรถยนต์น้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้นคือ โฟค สวาเกนครับ บางคนเข้าใจว่าเป็นพี่โตเนอะ

ข่าวต่างๆ ที่ตีพิมพ์ออกมานั้น สังเกตุได้ว่า เรื่องผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั้น ไม่มีใครเคยกล่าวถึงประเทศไทยเลย ซึ่งแปลว่า โลกไม่ได้หมุนรอบพี่โตหรือไทยแน่นอนครับ ตลาดรอบโลกตอนนี้ตื่นตัวกันอย่างมากในการหนีไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

ต่อให้ไทยพยายามถ่วงเวลาหรือรั้งไว้ คนที่เสียหายที่สุดคือ ลูกจ้าง รองลงมาคือประชาชนในประเทศครับ เพราะอะไรหรอครับ ? เพราะระบบการผลิตสมัยใหม่นั้นเน้น robot arm ซึ่งประเทศไทยยังไม่มีใครพัฒนาแรงงานส่วนนี้ให้สอดคล้องกับความต้องการของโลกเลย กลายเป็นว่า เค้าจะหนีไปเวียดนามหรือไม่ก็จีนกันหมดแล้วครับ

ผมอยากให้มองว่า ถ้ารถยนต์ไฟฟ้าไม่บูมจริงๆ ยักษ์ใหญ่ที่สุดในวงการรถยนต์ของโลกจะเคลื่อนตัวแบบนี้กันหรอครับ? ลองคิดดูดีๆ นะครับ

ปี 2019 นี้ มีบริษัทผลิตรถยนต์ไหนบ้างที่ไม่ลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าครับ

อย่าบอกนะครับว่า คุณกำลังคิดว่าพี่โตไม่ลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า !!

ไม่น่ะ เพราะพี่โตกดไป 64,000 ล้านบาทกับการลงทุนที่ประเทศอินโดนีเซีย ดังนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่ข่าวนี้จะไม่ดังครับ

อ่านต่อได้ที่ :

แล้วคราวนี้ ไทยควรจะวางแผนอย่างไรต่อไปกันดีครับ?

ฝากให้คิดกันนะครับ

Stay tune, Stay with BLINK DRIVE

Follow by Email