เท่าที่ผมทราบข้อมูลมา คือ เทสล่าได้แชมป์ขายดีอันดับหนึ่งในประเทศนอร์เวย์มาซักพักแล้ว และตัวเลขของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศนอร์เวย์ก็ขยับขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนปัจจัยหลักที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าขายดีในประเทศแถบยุโรปก็คือ incentive (เงินอุดหนุน)จากรัฐบาลของแต่ล่ะประเทศครับ (หรือป่าวน้าาาาา)
ก่อนจะเข้าเรื่องรายงานยอดขายของประเทศเนเธอร์แลนด์เรามาดูกันก่อนเลยว่า รถยนต์ไฟฟ้า tesla model 3 ในเนเธอร์แลนด์นั้นขายที่ราคาเท่าไหร่
Incentive : Tesla model 3 10 % ของราคารถ
ประเทศเนเธอร์แลนด์ของรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคา €48,900 หรือ 1.6 ล้านบาท โดยรัฐบาลให้ incentive (ในแต่ล่ะเมืองไม่เหมือนกัน)ที่ระหว่าง 1,000 – 5,000 ยูโร(33,000 – 167,000 บาท) คิดเป็น 10 % ของราคารถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3
ที่มา incentive รถยนต์ไฟฟ้า tesla model 3 ในประเทศเนเธอร์แลนด์: thetruthaboutcars
ที่มาราคารถยนต์ไฟฟ้า tesla model 3 : tesla netherland
ยอดกันยายนเดือนเดียว 5,798 คัน
โอ้โห แบบนี้ไม่ธรรมดาแล้วละครับ ยอดเดือนกันยายนเดือนเดียว เท่ากับ 42% ของยอดขายทั้งปีเลยนะครับ
ปัจจัยที่ทำให้ยอดเดือนกันยายนโดดพุ่งสูงแบบนี้คือ Tesla หันไปส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปแบบจริงจังนั่นไงล่ะครับ ทำให้ลูกค้าที่ถือใบจองอยู่เป็นหมื่นๆ ใบเริ่มได้รับรถกันจริงๆ ซะที
จริงๆ demand(ความต้องการ)รถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปนั้นสูงทุกประเทศนะครับ แต่ที่ผ่านมายอดไม่โดดสูงแบบนี้เพราะติดปัญหาเรื่องนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากอเมริกามายุโรปครับ ตอนนี้ Tesla แก้ไขปัญหาการส่งมอบได้แล้วทำให้ยอดจองที่อัดแน่นอยู่นั้นได้ทะลักท่วมท้นจนถล่มยอดขายรถยนต์น้ำมันแบบไม่เห็นฝุ่นไปเลยครับ
ที่มา : cleantechnica
BLINK DRIVE TAKE
ถ้าถามผมว่า incentive นั้นมีผลในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไหม ผมบอกได้เลยว่า “มี” แต่ถ้ารถยนต์มันต้องซื้อมาซ่อมเยอะ หรือไม่ประหยัดเชื้อเพลิง แล้วล่ะก็ต่อให้ลด 50 % ของราคาป้ายผมก็คิดหนักครับ เคสนี้ ก็ต้องเปรียบเทียบกลับไปที่ fuel cell car เนอะ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์หรือรัฐบาลอื่นๆ ในยุโรปนั้นให้ incentive รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงประเภท hydrogen หรือ fuel cell เท่ากับรถยนต์ไฟฟ้า
แต่กลับกลายเป็นว่ายอดขาย hydrogen car ทั้งโลกในตอนนี้มีเพียง 119,000 คันเท่านั้น
ดังนั้นผมมองว่า ประชาชนไม่ได้ตัดสินใจซื้อรถยนต์จาก incentive เป็นหลักครับ เพราะส่วนลดแค่ 10 % นี่ ค่ายรถยนต์น้ำมันค่ายไหนบนโลกก็ทำได้แหละครับ
คราวนี้มาดูอีกเรื่องคือเรื่องราคารถยนต์น้ำมันที่เนเธอร์แลนด์ ถ้าจะเปรียบราคารถยนต์ไฟฟ้า tesla model 3 ก็ต้องเอาราคารถยนต์ BMW series 3 ที่เนเธอร์แลนด์มาชนกัน เพื่อจะเปรียบเทียบกันนะครับว่า รถยนต์ไฟฟ้า tesla model 3 (หลังจากได้ incentive ไปแล้ว) ไม่ได้มีราคาถูกกว่ารถยนต์น้ำมันอย่าง BMW เลย
tesla model 3 ราคา €48,900 หรือ 1.6 ล้านบาท
BMW 320d ราคา €40,500 หรือ 1.35 ล้านบาท
ดังนั้น ใครจะมาบอกว่า เห้ย ที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเยอะขนาดนี้เพราะขายถูกกว่าค่ายรถยนต์หรูไม่ได้แล้วนะครับ เพราะหลักฐานก็เห็นกันจะๆ ว่า ราคารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นแพงกว่ารถยนต์น้ำมัน ทั้งๆ ที่ได้ incentive(เงินอุดหนุนจากรัฐ)แล้ว
ประเทศพัฒนาแล้วเค้ายังหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันเลยครับ ผมเชื่อว่า ไม่ใช่เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลักแน่นอน ใครจะบ้ารักสิ่งแวดล้อมมากกว่าเงินในกระเป๋าครับ (ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ครับ)
สิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเค้าหนีไปเล่นรถยนต์ไฟฟ้าเพราะเรื่องเชื้อเพลิงที่ถูกกว่าและอะไหล่ที่น้อยชิ้นกว่า (ง่ายต่อการซ่อมแซมและซ่อมถูกกว่า)
แล้วไทยล่ะครับ? ยังจะมีเหตุผลอะไรอีก, ที่จะเอามาเป็นข้ออ้างในการปิดกั้นอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าอ่ะครับ
ผมอยากรู้เหตุผลที่ไทยไม่ยอมเปิดรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าครับ จะได้เสาะหาข้อมูลมาพูดคุยและเขียนสกุ๊ปข่าวสรุปให้อ่านอีกครับ
เพราะระยะยาว ไทยจะโดนเวียดนาม, พม่า, จีน, ลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้ และอินเดีย แซงหมดแล้วนะครับ
ระยะยาวนั้น ยังไงรถยนต์ไฟฟ้าก็มาครับ ดูราคาและยอดขายสิครับ ไม่สัมพันธ์กันเลย ขายซะแพง แต่กลับขายดีซะงั้น
ประเทศไหนเห็นยอดเหล่านี้ก็วางแผนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้เทสล่าทั้งนั้นแหละครับ สงสัยว่าทำไมผู้บริหารบางท่านยังงมองไม่เห็นภาพรวมเหล่านี้เลยครับ, เอาเด็กจบ ป. 3 มาอ่านกราฟก็สามารถคาดการณ์อนาคตอันใกล้นี้ได้ว่า ยุโรปจะเดินหน้าไปในทิศทางไหนครับ
สุดท้ายนี้ผมขอเอายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปตั้งแต่เดือนแรกจนถึงเดือนกันยายนมาให้ทุกท่านได้เห็นนะครับ