ทางการจีน(เซี่ยงไฮ้)ได้ออกหนังสือรับรองผลงานการก่อสร้าง(first comprehensive acceptance certificate) โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Gigafactory 3 (เฟส 1) ในวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมานี้
การออกใบรับรองหลังจากภาครัฐได้เข้าไป inspect (ตรวจสอบ)อาคารต่างๆ ในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Gigafactory 3 นี้ถือเป็นการออกใบรับรอง(certificate) ที่เร็วที่สุดในบันทึกประวัติศาสตร์ของเซี่ยงไฮ้(record) เลยก็ว่าได้ ใช้เวลา inspect และทำใบรับรองเสร็จเพียง 3 วันเอง ซึ่งสื่อต่างๆ ในต่างประเทศได้ออกมาตีพิมพ์แบบหยิกแกมหยอกว่า ใบรับรองนี้มันได้ถูกทำการอนุมัติ(approve) ตั้งแต่โรงงานยังไม่สร้างเลยด้วยซ้ำ
แต่ความเป็นจริงแล้ว ลึกๆ รัฐบาลจีนต้องการให้โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้สร้างให้เสร็จเร็วที่สุดเพราะ demand(ความต้องการ)ของรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นมากกว่าที่พวกเค้าคาดการณ์เอาไว้ ดังนั้น พวกเค้าทุ่มหมดหน้าตัก เรียก supplier(ผู้จัดส่งของ) และผู้รับเหมาทุกรายเข้ามาบริการ Tesla แบบ first class(พิเศษสุดๆ) เลยก็ว่าได้ครับ
Elon Musk เตรียมบินมาเปิดโรงงานสิ้นเดือนสิงหาคมนี้
แหล่งข่าวของจีนได้แจ้งว่า CEO Elon Musk จะบินมาเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ภายในวันที่ 29 สิงหาคม 2562 นี้เพื่อร่วมงานประชุมสัมมนา 2019 World Artificial Intelligence Conference หรืองาน AI (หุ่นยนต์) ระดับโลก โดย Elon Musk จะเป็นตัวตั้งตัวตีในงานนี้ด้วยเช่นกัน
หลังจากจบงานนี้ ยังมีงานอีก 2 งานรออีลอนอยู่ นั่นก็คือ การตัดริบบิ้นเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Gigafactory 3 และอีกงานก็คือเปิดตัวบริษัท Boring Company China หรือบริษัทคมนาคมใต้ดินของอีลอนนั่นเอง
BLINK DRIVE TAKE
หลังจากนี้ไป พวกเราไม่ควรจะดูถูกคนจีนอีกแล้วนะครับ ไม่ใช่อะไรก็บอกว่า รถยนต์จีน ขับได้หรอ
เอาจริงๆ นะครับ รถยนต์จีนนั้นมีระบบ 5G กันแล้ว แต่ประเทศไทยยังหน้าด้านพัฒนารูปทรง, ไฟหน้ารถ, ไฟท้ายรถ กับระบบเครื่องยนต์สันดาบอยู่เลย ซึ่งประเทศพัฒนาแล้วเค้าโยนโปรเจคเหล่านี้ทิ้งไปแล้ว เพราะการพัฒนาเหล่านั้นมันหน้าเค้กครับ
เค้าหันไปพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ(autonomous driving) หรือรถยนต์ไฟฟ้า (electric car) กันหมดแล้วครับ
อนาคตอันใกล้นี้ จะเหลือผู้เล่นในตลาดรถยนต์ไม่กี่ราย และจะให้กำเนิดผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดรถยนต์เพิ่มขึ้นอีกมากมายครับ
ลองคิดดูว่า ตอน iphone ยังไม่กำเนิด ผู้เล่นในท้องตลาดต่างพากันพัฒนามือถือแบบเตะถ่วงสุดๆ รุ่นมือถือแทบจะเหมือนกันทั้งหมด แตกต่างกันแค่สีของปุ่มกดและขนาดหน้าจอ(ขาว-ดำ) เท่านั้น ดีหน่อยบางรุ่นเป็นพาพับ, บางรุ่นเป็น slide แล้วก็ทำนายทายกักกันว่า ฝาพับจะครองโลกบ้าง, มือถือ slide จะครองโลกบ้าง
คิดดูว่า ใครก็ตามที่มีมือถือเครื่องนี้ เดินเล่นในสยามช่วงนั้นนี่โคตรเท่ห์เลยครับ สาวยังหันมอง ทั้งๆ ที่มือถือมันทำได้แค่ ถ่ายรูป, โทรเข้า – ออก, ส่ง sms เล่น internet นี่ทำได้ครับ แต่ speed คือ GPRS เท่านั้น ความหล่อของมันคือ ถ่ายรูปตอนพับฝาได้ แต่จะถ่ายไปก็เท่านั้นเพราะไม่มี facebook ไปอวดใครครับ ฮ่าๆ
แต่พอ iphone เข้ามาเท่านั้น พวก motorola กระเด็นก่อนใครเพื่อนเลยครับ ล้มหายไปแบบแทบจะปิดบริษัทหนีไปเลย แถมเจอ huawei ผนึกกำลังกับ leica ออก huawei p30 pro อีก ทำให้มือถือ nokia symbian กากๆ กลายเป็นมือถือจับกังไปเลยครับ
บอกตามตรงครับ การออกแบบ iphone นั้นเห่ยสิ้นดี ออกแบบมือถืออย่างกับก้อนหิน แต่ feature ที่ซ่อนเอาไว้ข้างในต่างหากที่ทำให้มันขายดีครับ
เช่นกันครับ รถยนต์ไฟฟ้า tesla model 3 นั้นเป็นรถยนต์ที่ออกแบบภายในห้องโดยสารได้เห่ย สุดๆ (ถ้าคุณเอารถยนต์ไฟฟ้า tesla model 3 ไปเทียบกับ BMW series3 คุณจะเห็นเลยว่า BMW นั้นมีปุ่มกดสารพัดนึกเลยครับ บางคนบอกว่า เบาะ BMW classic กว่า, การปรับตำแหน่งเบาะของ BMW ทำได้เยอะกว่า) แต่ปุ่มกดเยอะๆ เหล่านั้นใน BMW ไม่ได้ช่วยอะไรในการขับขี่เลย การตอบสนองในส่วน user interface(การใช้งานผ่านจอ)ก็ดูจะเชื่องช้ากว่า Tesla Model3 เป็นสิบเท่า ทำให้ผู้ใช้งานต่างๆ พากันเทคะแนนไปยังเทสล่ายังไงล่ะครับ
เชื่อว่าอนาคตอันใกล้นี้ประเทศจีนจะ copy ทุกอย่างจาก tesla มาแล้วทำการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่เหนือกว่าหรือเทียบเท่ากับ Tesla
เอาจริงๆ นะครับ แค่จีนสร้างรถยนต์ไฟฟ้าให้เทียบเท่ากับ Tesla เท่านั้น ยอดขายก็พุ่งเกิน ค่ายรถญี่ปุ่นที่มัวแต่พัฒนาภายใน ภายนอกรถยนต์แน่นอนครับ
ยังไงก็ดูเกมส์นี้ยาวๆ นะครับ บอกได้คำเดียวเลยครับว่า “การซื้อกล้องฟิล์มใช้ ในวันที่ iphone เปิดตัว ก็เหมือนกับการซื้อของไร้ประโยชน์มาผ่อนเล่นครับ” ผมพยายามเขียนบทความเปิดความรู้ให้แก่ผู้คนครับ ไม่ได้เชียร์ให้ใครไปซื้ออะไรมาใช้ อย่าเพิ่งเชื่อผม ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ผมขอเวลาแค่ 1 ปีหลังจากนี้เท่านั้น หลังจากนั้นคุณจะไปซื้อกล้องฟิล์มมาใช้แทน iphone ก็ได้ครับ ผมเตือนด้วยความเป็นห่วงนะครับ