Blink Blink
EV CarsinterviewTesla

Road Trip โหดๆ กับ Tesla Model 3 ระยะทาง 16,449 km กับเวลา 20 วัน

สวัสดีครับ กลับมาพบกับผม นาย Bring แห่งอาณาจักร Blink Drive นะครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปเที่ยวอเมริกากันกับคุณ Benswing Rich ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 รุ่น Mid-Range เค้าได้เอารถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ของเค้าขับเที่ยวไปรอบประเทศอเมริกาตามเส้นทางการเดินทางด้านล่างนี้นะครับ

ภาพจาก : TeslaFi

ระยะทางทั้งหมดที่ใช้ในการเดินทางคือ 16,449 km(10,221 ไมล์) โดยใช้ระยะเวลาเพียง 20 วันเท่านั้น!! ถือว่า เป็นการเดินทางไกลที่ไกลและโหดเอามากๆ แล้วที่สำคัญคือ เค้าเดินทางคนเดียวครับ เดี่ยวผมจะพาทุกท่านไปชมกันว่า เค้าทำได้อย่างไร และเสียค่าใช้จ่ายอะไรไปบ้างกับรถคันนี้ ถ้าพร้อมแล้ว ไปลุยกันเลยครับ

รู้จักคุณ Benswing Rich ได้ไง?

ผมเป็นสมาชิกกลุ่ม Tesla Model 3 อยู่แล้ว และได้เห็นโพสของคุณ Benswing ปรากฏขึ้นมาในกลุ่มเมื่อวาน (17 สิงหาคม 2019) ผมก็เลยตัดสินใจติดต่อเค้าไปเพื่อขอข้อมูลพร้อมกับความยินยอม(consent) ของเค้า เพื่อเอาข่าวนี้มาลงในเว็บของผม ปรากฏว่า พี่แกตอบตกลง ก็เลยเป็นที่มาของโพสนี้นะครับ

คุณ Benswing Rich เป็นแฟนตัวยงรถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว

ภาพจาก facebook fan page :
Ben Rich – Electric Biker

หลังจากผมได้พูดคุยกับคุณ Benswing แล้ว ผมก็ได้ทำการศึกษาโปรไฟล์ Facebook และ Youtube ของเค้าก็ปรากฏว่า เค้าชอบขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า RoadTrip มาตั้งแต่ปี 2015(พ.ศ. 2558) ดังนั้นไม่แปลกใจเลยที่เค้าได้รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 มาครอบครองนะครับ ติดตาม Youtube Channel ของคุณ Benswing ได้ด้านล่างนี้เลยนะครับ

Youtube Channel : Benswing Rich

โดยคุณ Benswing ได้ทำการจองรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 คันนี้ไปตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2018 (พ.ศ. 2561) และได้รับรถในวันที่ 31 ธันวาคม 2561(2018) ณ เวลาบ่าย 2 โมง ซึ่งเหลืออีก 10 ชั่วโมงจะหมดสิทธิ์รับ incentive(เงินอุดหนุน) $7,500 จากรัฐบาลของอเมริกา เรียกได้ว่า เส้นยาแดงผ่าแปดเลยล่ะครับ ส่วนราคารถของคุณ Benswing หลังได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลแล้วอยู่ที่ $38,990(1.2 ล้านบาท) ราคานี้รวมระบบ auto-pilot (มูลค่า $3,000 [93,000 บาท]) แล้วนะครับ เห้ย!! 1.2 ล้านบาท แล้วได้รถยนต์ไฟฟ้าแบบนี้ขับ อ๊ากก!! (ร้องไปงั้นครับ รถยนต์ไฟฟ้าที่ไทยคงไม่ถูกลงหรอกครับ)

เริ่มต้นการเดินทางคนเดียวที่เมือง Montclair รัฐ New Jersey

คุณ Benswing ได้ออกเดินทางจากเมืองมองต์แคลร์ รัฐนิวเจอร์ซี่ ที่เค้าอาศัยอยู่ โดยการเดินทางนั้นได้พาเค้าและรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ทะลุไปยังหลากหลายเมือง เช่น Banff, Seattle(ซีแอ๊กเทิล), Park City(ปาร์ค ซิตี้), Denver(เดนเวอร์) , และหัวเมืองอื่นๆ อีกมากมาย แต่สิ่งที่เค้าเน้นใน ทริปนี้เลยก็คือ อุทยานแห่งชาติ Glacier National Park ดังนั้นผมจะขอทำการเจาะลึกเกี่ยวกับทริปอุทยานแห่งชาติ Glacier National Park ของเค้านะครับ

อุทยานแห่งชาติ Glacier National Park

Benswing กับป้ายหน้าอุทยานแห่งชาติ National Park ของประเทศอเมริกา

Glacier National Park อยู่ในรัฐมอนทานา ติดกับชายแดนแคนาดา ที่แห่งนี้เคยถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งในราว 2 ล้าน ถึง 12,000 ปีก่อนเนื่องจากการเย็นตัวของโลก เราเรียกยุคนั้นว่ายุคน้ำแข็ง (Ice Age) ไม่น่าเชื่อว่ายุคน้ำแข็งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อ 12,000 ปีที่ผ่านมานี่เอง หลังจากน้ำแข็งถอยร่นไป ต้นไม้และสัตว์ป่าเข้ามาแทนที่ มีหลักฐานว่ามนุษย์เริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ณ ที่แห่งนี้เมื่อหลายพันปีมาแล้ว ซึ่งเป็นชาวอินเดียนแดงพื้นเมืองก่อนที่นักสำรวจจากยุโรปจะเข้ามายังดินแดนแห่งนี้เพียง 2-3 ร้อยปีที่ผ่านมานี่เอง

แวะถ่ายรูปตอนพระอาทิตย์ขึ้นที่ Moraine Lake-Banff National Park

เมื่อหิมะและน้ำแข็งที่กดทับแน่นมีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเมื่อมีปริมาณมากระดับหนึ่ง แรงโน้มถ่วงโลกทำให้ค่อย ๆ เคลื่อนตัวลงสู่ที่ต่ำกว่า กลายเป็นธารน้ำแข็ง (glacier) ที่มีน้ำหนักมหาศาล ธารน้ำแข็งจะลากพาเศษหิน ดิน กรวด ลงมาด้วย และเปลี่ยนภูมิทัศน์เสียใหม่โดยการสกัดพื้นผิวของภูเขาจนเรียบคม บางแห่งเกิดเป็นสัน บางแห่งที่ธารน้ำแข็งมากกว่าหนึ่งสายไหลผ่านคนละเส้นทางของภูเขาก็จะทำให้ช่วงรอยต่อเกิดเป็นสันแหลมเหมือนครีบหรือเมื่อธารน้ำแข็งสามสายขึ้นไปไหลผ่านแต่ละด้านของภูเขา จะสกัดจนเป็นรูปปีระมิดยอดแหลมเรียกว่าฮอร์น (horn)

ถ่ายภาพพระอาทิตย์ตก ณ Glacier National Park

ที่มา : Khon Thai America

ขับรถไป 16,449 km ลำบากไหม?

ผมสงสัยอย่างมากว่า ขับรถยนต์ไฟฟ้าเที่ยวไปแบบนี้ จะหาที่ชาร์จที่ไหนได้บ้าง, ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ายังไงบ้างในแต่ละวัน, ระหว่างเดินทางประสบปัญหาอะไรบ้างไหม(รถพัง, แอร์เสีย, หรือปัญหาเทคนิคต่างๆ) และค่าใช้จ่ายในการชาร์จเท่าไหร่(หมดเงินไปเท่าไหร่)

เดี๋ยวเราจะมาหาคำตอบกันในหัวข้อนี้นะครับ

ไมล์รถก่อนออกเดินทาง (Road Trip) : 16,135 ไมล์ (25,966 km)
ไมล์รถหลังจากกลับมาจากการเดินทาง (Road Trip) : 26,356 ไมล์ (42,415 km)

ขับกี่ km ต่อวัน (How many miles you drive daily?)

ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า ระยะทาง 16,449 km ภายใน 3 อาทิตย์นี้เป็นอะไรที่ท้าทาย(challenge) เอามากๆ เลยนะครับ สำหรับรถยนต์ขนาดเท่ากับ Honda Civic ลองหารเล่นๆ นะครับ เอาระยะทางทั้งหมดหาร 20 วัน จะเท่ากับวันล่ะ 822 km ซึ่งเท่ากับระยะทางเชียงราย – กรุงเทพเลยน่ะนั่น เรียกว่า นายคนนี้เดินทางไป-กลับระหว่างเชียงรายกับกรุงเทพ 20 วันติดต่อกันนะครับ เรามาดูกันว่า คุณ Benswing นั้นวางแผนการเดินทางยังไงกันบ้างครับ


 Traveled over 1000 miles from Denver to Chicago and did 2 other days of 900+ miles, too!

[แปล] ผมเดินทางมากกว่า 1,000 ไมล์(1,609 km) จากเมืองเดนเวอร์ ไปยังเมื่อชิคาโก้ในวันเดียว , และ 2 วันอื่นๆ ผมได้เดินทางมากกว่า 900 ไมล์(1,448 km)ต่อวัน

Benswing Rich

เป็นอย่างที่ผมคาดการณ์เอาไว้เลยว่า โดยเฉลี่ยแล้วเค้าจะเดินทางที่ 500 ไมล์(804 km) ต่อวัน และในบางวันที่เค้าต้องเร่งให้ถึงที่หมายเร็วขึ้นอย่างเส้นทางจากเดนเวอร์ไปยังเมืองชิคาโก้นั้น เค้าจึงต้องขับมือเดียว 1,609 km ครับ เรียกได้ว่า โหด มันส์ ฮา จริงๆ โดยเค้าได้บอกผมว่า เค้าเปิด auto-pilot ช่วยขับเป็นส่วนใหญ่ ทำให้สามารถขับระยะทางไกลโดยไม่เหนื่อยเลย

Range [ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง]

อุปสรรคของการขับไกลของคุณ Ben นั้นก็คือ Range(ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง) เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ของคุณ Ben นั้นเป็นรุ่น Mid range (รุ่นกลาง) วิ่งได้เพียง 254 ไมล์(408 km) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้เค้าเสียเปรียบพวกรุ่น Top อย่าง Tesla Model 3 รุ่น Long Range เป็นอย่างมาก ตัว Long Range นั้นวิ่งได้ 310 ไมล์(498 km) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เรียกได้ว่า ห่างกัน 90 km เลยทีเดียว ซึ่งถ้าเอามาขับเล่นๆ ในเมืองนั้นแทบจะไม่ต่างกันเลยครับ แต่ถ้าเอามาเดินทางไกล (โดยเฉพาะทริปโหดๆ แบบนี้ ; 16,449 km) การที่ใช้ Mid-range มาวิ่งนั้น ทำเอาเสียเวลาในการจอดแวะชาร์จอย่างมากเลย

Obviously long distance trips are easier with the long range Model 3, but it would only decrease each leg of my trip by a few minutes.

[แปล] แน่นอนล่ะ รุ่น long range นั้นขับทางไกลได้เปรียบมากกว่ารุ่นที่ผมขับอยู่มาก แต่มันก็ไม่เป็นอุปสรรคอะไรมากในการขับทางไกลครั้งนี้ ผมแค่เสียเวลาแวะจอดชาร์จรถเพิ่มเท่านั้น

Benswing Rich

ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านานไหม?

Charging at superchargers makes road trips easy and enjoyable! Average charge time for the whole 10,000 mile trip was 12 min 18 seconds. – Benswing Rich

โดยเฉลี่ยแล้ว คุณ Ben ใช้ระยะเวลา 12 นาที 18 วินาทีต่อสถานีชาร์จ Tesla SuperCharger

Blink Drive Take : ในความเห็นของผมนั้น 12 นาทีนั้นไม่นานเลย เวลาคุณขับรถเข้าไปในปั้มน้ำมันแวะซื้อไส้กรอกพร้อมน้ำดื่ม 1 ขวด(ต่อแถวรอคิว, แคชเชียร์ทอนเงิน) หรือแวะซื้อกาแฟอเมซอนแล้วล่ะก็ มันก็ใช้ระยะเวลาเกือบเท่ากันเลย ดังนั้น ถ้าคุณ Benswing Rich ทำได้ เชื่อว่า อนาคตอันใกล้ ประเทศไทยก็จะ copy และนำไปพัฒนาต่อยอดได้ในที่สุดแหละครับ

แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่เค้าจะสามารถหา Supercharger เจอได้ โดยเฉพาะตอนที่ต้องขับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 คู่ใจของเค้าเข้าไปยังอุทยานแห่งชาติ Glacier National Park , ในสถานที่แห่งนั้นไม่มี Supercharger เลย

แผนที่ : Supercharger ในประเทศอเมริกา

ทำให้เค้าเลือกใช้ app ชื่อว่า PlugShare ในการค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของเค้า ส่วนใหญ่แล้ว ตาม campground(บริเวณที่ตั้งแคมป์) จะมีเต้ารับขนาด 50 Amp เปิดให้คนที่มาตั้งแคมป์เข้ามาใช้ไฟฟรี ดังนั้นเค้าก็ขับรถ Tesla Model 3 เค้าไปจอดเพื่อชาร์จไฟ คุณ Benswing ยังบอกอีกว่า บางแห่งในอุทยานมีที่ชาร์จหลากหลายยี่ห้อ เช่น Tesla charge destiny(เป็น charging level 2) และ clipper creek charger(ที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า level 2 เช่นกัน)

Charging in Glacier National Park next to another Model 3! I found a friend on the road!
แวะจอดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในอุทยานแห่งชาติ Glacier National Park, ระหว่างจอดชาร์จ, ผมก็ได้พบเพื่อนใหม่อีกคนด้วย

ขับรถไป 16,449 km เสียเงินค่าเชื้อเพลิงไปเท่าไหร่? [how much?]

The total supercharging cost was $442.41.
It would have cost $1,021 in an average gas-powered car.

[แปล] ผมเสียเงินไปกับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 13,653 บาท ($442.41) ถ้าผมเอารถยนต์น้ำมันมาขับระยะทางเท่านี้ล่ะก็ แค่ค่าน้ำมันอย่างเดียวก็ปาไป 32,187 บาท($1,021)แล้ว


Benswing Rich

คุณเบนยังบอกอีกว่า นี่ผมยังไม่รวมค่าใช้จ่ายเรื่องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องของรถยนต์น้ำมันเข้าไปนะครับ เพราะระยะทางที่ผมนำรถไปขับนั้นตั้ง 16,000 km ดังนั้นต้องทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างต่ำ 3 รอบ พร้อมไส้กรองอากาศอีกด้วย แถมไม่รู้ว่า เครื่องยนต์จะ overheat เมื่อไหร่ คุณก็รู้ว่า การขับรถยนต์ระยะทางไกลแบบนี้ เราต้องทำการเปลี่ยนของเหลวทุกชนิดบ่อยมากๆ ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า Tesla model 3 คันนี้หรอ ผมยังไม่ได้ทำอะไรกับมันเลยตั้งแต่ซื้อมา จริงๆ นะ ผมแค่สลับยางรถ(rotate tire) แค่นั้นซึ่งผมทำก่อนออกเดินทางไปแล้ว

ตั้งแต่ซื้อรถมา ยังไม่เคยเอาเข้าศูนย์เลย(never service yet!!)

Benswing Rich กล่าวต่อ “เอาจริงๆ ไหม ผมขับรถคันนี้มาเกือบ 50,000 km แล้ว ผมยังไม่รู้เลยว่า ศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้า Tesla อยู่ตรงไหนของเมืองผม

ตั้งแต่ผมซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้มา ผมขับมาแล้วกว่า 48,000 km โดยยังไม่เคยเอารถเข้าศูนย์ซักครั้ง

Just rotated the tires at 12,500 miles. Yes I meant “no service center trips yet.”

[แปล] ตั้งแต่ซื้อรถมาทำอย่างเดียวคือ สลับยางรถ ซึ่งทำไปแล้วตอนรถขับครบ 20,000 km(12,500 ไมล์) แล้วผมอยากจะย้ำอีกครั้งว่า “no service center trip = ไม่เคยเข้าศูนย์เลย”

ฺBenswing Rich

Blink Drive Take

รถยนต์ไฟฟ้านั้นอะไหล่มีเพียง 400 ชิ้นต่อคัน แตกต่างจากรถยนต์ ICE (น้ำมัน) ที่มีมากกว่า 4,000 ชิ้นให้ซ่อมเล่น แถมการทำงานรถยนต์ไฟฟ้านั้นมันสะดวกง่ายดายมากๆ มีแค่มอเตอร์กับแบตเท่านั้น ดังนั้นผมเชื่อคุณ Benswing ครับว่า เค้าไม่เคยเอารถยนต์ไฟฟ้าเค้าเข้าศูนย์เลย ทั้งๆที่ขับมามากกว่า 48,000 km แล้ว ถ้าทำอย่างนี้กับรถยนต์น้ำมัน(ไม่เอารถเข้าศูนย์) ตอนนี้น้ำมันเครื่องคงเหนียวข้นติดกับผนังห้องสูบไปแล้วครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้สังเกตุคือ เอารถยนต์ไฟฟ้าไปวิ่งมากกว่า 16,000 km แล้วกลับมาสภาพเดิมได้ หลังจากกลับมาแล้วยังไม่ต้องเข้าศูนย์อีกครับ นั่นแปลว่า รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 นั้นได้พิสูจน์อะไรหลายๆ อย่างแล้วว่า เหนือว่า รถยนต์น้ำมันอย่างไรบ้าง

เท่าที่ผมได้พูดคุยกับคุณ Benswing แล้ว ผมก็อยากสรุปออกมาเป็นข้อๆ ว่า เค้าได้ทดสอบอะไรบ้าง

  1. endurance (ความคงทน) – เทียบกับรถยนต์น้ำมันแล้ว ถ้าให้วิ่งระยะทางเท่านี้ เครื่องยนต์คงต้องมีเสื่อมบ้าง อย่างน้อย น้ำมันเครื่องเอย , ไส้กรองอากาศเอย ดีไม่ดี Timing Belt, หรือ หัวเทียนก็ได้คงได้เปลี่ยนระหว่างทางแน่นอนเพราะขับมาราธอนเหลือเกิน (800 km ต่อวัน)
  2. Save (ความคุ้มค่า) – ขับไป 16,000 km เสียค่าชาร์จไฟไปเพียง $400 หรือ 12,000 กว่าบาท เห้ย นี่มันถูกกว่าขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวซะอีกครับ
  3. Environment(รักษ์โลก) – หลายคนยังบอกว่า รถยนต์ไฟฟ้านี่แหละตัวทำลายโลกเพราะแบตเป็นพิษ แต่อยากจะบอกเลยว่า อเมริกาเค้ามีโรงงาน recycle battery แล้ว แถมรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ ปล่อยมลพิษระหว่างเดินทางเป็น ศูนย์เลยครับ
Visiting the rapidly retreating Athabaska Glacier in Jasper National Park. I drive an EV to help combat the climate crisis that is eliminating these important stors of water quickly. – Benswing Rich

หวังว่า ทุกคนคงได้ไปเที่ยวอเมริกาพร้อมผมและคุณ Benswing จนอย่างจุใจแล้วนะครับ ยังไงก็ฝากกดติดตามคุณ Benswing ได้ตาม social media ได้ล่างนี้ได้เลยนะครับ

Stay tune, Stay with Blink Drive

Follow by Email