Blink Blink
News

มาเลเซียแซงหน้าไทย ชิงเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งที่ 3 ในรัฐเนอเกอรีเซิมบีลัน

(ภาพด้านบน) นายแพทย์ ตุน ดกโตร์ มาฮาดีร์ บิน โมฮามัด ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศมาเลเซีย กำลังยืนสำรวจรถยนต์ไฟฟ้า NIO EP9 (รถยนต์ไฟฟ้า hyper car ที่เร็วที่สุดในโลก) ณ เดือนมีนาคม ที่ผ่านมานี้ ทั้งนี้องค์กร MIER( Malaysian Institute of Economic Research ) ยังบอกว่า นายกรัฐมนตรีท่านนี้วางแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอีก 1 โรง ณ รัฐเนอเกอรีเซิมบีลัน(Negeri Sembilan) ซึ่งจะเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งที่สามของประเทศมาเลเซีย

คลิป : รถยนต์ไฟฟ้า Nio EP9

MIER แจ้งออกมาแล้วว่า จะทำการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามูลค่า 5,000 ล้านริงกิต(3.7 หมื่นล้านบาท) ณ เขตนิคมอุตสาหกรรม Enstek ในรัฐเนอเกอรีเซิมบีลัน(Negeri Sembilan)

เขตนิคมอุตสาหกรรม : Enstek

ถ้าการเจรจาทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแล้วล่ะก็ ประเทศมาเลเซียจะไม่เพียงแซงหน้าไทยในเชิงอุตสาหกรรมรถยนต์เท่านั้น แต่ยังจะเป็นเบอร์สองหรือสามรองลงมาจากจีนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าส่งป้อนยุโรปและอเมริกาอีกด้วย

MIER ยังปิดชื่อนักลงทุนเป็นความลับอยู่ แต่ตอนนี้ภายในประเทศมาเลเซียนั้นได้เริ่มก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงเรียน, หมู่บ้าน, และห้างฯ รอบๆ บริเวณนิคมอุตสาหกรรม Enstek แล้ว ทั้งนี้ที่ทำไปก็เพื่อรองรับการเปิดตัวการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ภายในเดือนตุลาคม 2562 นี้ด้วย

นายกรัฐมนตรี ตุน ดกโตร์ มาฮาดีร์ บิน โมฮามัด ได้กล่าวว่า ประเทศมาเลเซียจะเป็นประเทศผู้นำในการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไปขายยังประเทศต่างๆ ในยุโรป, ประเทศออสเตเรีย,และประเทศอเมริกาภายในปลายปีนี้แน่นอน ซึ่ง MIER ยืนยันมาว่า การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศมาเลเซีย ณ แห่งที่สามนี้ มีเป้าหมายเพื่อส่งออกเป็นหลัก ดังนั้นมาตราฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ต้องเป็นมาตราฐานขั้นสูงที่ใช้ในต่างประเทศเท่านั้น

MIER ยังส่งสัญญาณออกมาล่วงหน้าอีกว่า ตอนนี้ ประเทศมาเลเซียได้ร่าง MoU(คำแปลอยู่ด้านล่าง) ออกมาให้กับคู่ค้ามากกว่า 20 บริษัท

MOU ย่อมาจาก Memorandum of Understanding แปลว่า บันทึกความเข้าใจในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างระหว่างบุคคลสองคณะ หรือมากกว่านั้น
เป็นโครงร่างข้อผูกพันระหว่างคณะทำงานที่จะปฏิบัติงาน เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน โดยมิได้ผูกพันเหมือนสัญญา (contract) ซึ่งส่วนใหญ่ MOU จัดทำขึ้นเพื่อความร่วมมือในการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อเกิดประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย และประเทศชาติในที่สุด
ที่มา :
https://www.facebook.com/NorthernSisterCityMOU/posts/2042505322676949/

โดย ไฮไลท์ MoU ของประเทศมาเลเซียได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้า, แบต solid state, รถยนต์ hydrogen (fuel cell) , เครือข่ายมือถือ 5G และ น้ำมัน biojet ที่สกัดจากน้ำมันปาล์ม

ที่มา : freemalaysiatoday

BLINK DRIVE TAKE

เป็นเรื่องน่ายินดีที่นายกรัฐมนตรี ตุน ดกโตร์ มาฮาดีร์ บิน โมฮามัด มองการณ์ไกลมากๆ เอาไว้นะครับ ผมประทับใจกับการตัดสินใจของเค้าที่เอาเทคโนโลยีมาก่อนผลประโยชน์ของกลุ่มทุนนะครับ (ดูได้จาก MoU ของประเทศแล้ว เรียกได้ว่า เอาคนมีการศึกษามาบริหารประเทศจริงๆ ครับ) เพราะ MoU นั้นเน้นไปที่ผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก เทคโนโลยีใหม่ๆ นี่แหละครับที่จะเป็นตัวผลักดันประเทศไปข้างหน้า

ส่วน โปรเจคการลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามูล่า 37,000 ล้านบาทที่นิคมอุตสาหกรรม Enstek นี่ไม่ธรรมดาจริงๆครับ ผมบอกได้เลยว่า ถ้าสร้างเสร็จภายในปีหน้านี้ ประเทศไทยมีดุ้งครับ เพราะการที่มีโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดนี้ประมาณ 3 โรงนี่ให้กำลังผลิตออกมาเยอะน่าดู(ผมจะเอาตัวเลขการผลิตและนักลงทุนมาชี้แจงให้ทีหลังนะครับ)

ผมมองอีกอย่างว่า การจะเปลี่ยนแปลงอะไรนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ได้ตัดสินใจช่วงข้ามคืนครับ ดังนั้นผมเชื่อว่า ผู้นำของประเทศมาเลเซียได้ศึกษาทุกอย่างมาอย่างถ่องแท้เรียบร้อยแล้ว จึงกล้าเปิดทางให้นักลงทุนมาลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นแห่งที่ 3 ครับ

ยังไงหนังเรื่องนี้เพิ่งเริ่มต้นนะครับ ผมจะพยายามนำข่าวสารจากประเทศเพื่อนบ้านมา update (ปรับปรุงให้ทันสมัย)ให้แก่ผู้อ่านทุกท่านนะครับ

Stay Tune, Stay with Blink Drive

Follow by Email