Blink Blink
EV CarsFrescos

บริษัท Fresco Motors เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด | วิ่ง 0-100 km/h ภายใน 2 วินาที

ก่อนจะเริ่มเรื่องราวรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดคันนี้ ผมขอพาทุกคนไปเที่ยวประเทศนอร์เวย์ซักหน่อยนะครับ

ประเทศนอร์เวย์มีรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 2.14 แสนคัน

หลังจากที่ Tesla model 3 ได้ถล่มยอดขายในทวีปยุโรปไปอย่างราบคาบแล้ว ประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ คือ การที่ผู้คนจะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์น้ำมันในอนาคตอันใกล้นี้นะครับ

รูปภาพ : ยอดขายรถหรูในทวีปยุโรป [Section D]

นอร์เวย์นั้นไม่เพียงมีอัตรานำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเยอะที่สุดในยุโรปเท่านั้น แต่ยังมีอัตราการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าต่อจำนวนประชากรเยอะที่สุดในทวีปยุโรป

ภาพ : รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศนอร์เวย์(ทุกคันในรูปเป็นรถยนตืไฟฟ้าทั้งหมด)

ประเทศนอร์เวย์นั้นมีประชากรเพียง 5.2 ล้านคนเท่านั้น แต่มีการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 219,000 คันหรือคิดเป็น 7.8 % ของจำนวนรถในประเทศ

คนหลายคนอ่านตัวเลขตรงนี้บอกว่า ก็ไม่ได้เยอะนิน่า ถ้าเทียบกับประเทศจีนหรืออเมริกาที่มีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งมากกว่า 1 ล้านคันไปแล้ว แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ ถ้าผมบอกว่า ตอนปี 2015 (2558) ประเทศนอร์เวย์ยังมีรถยนต์ไฟฟ้าเพียงแค่ 50,000 คันเอง ตัวเลขนี้ดูเยอะขึ้นมาเลยไหมครับ ผ่านไป 4 ปี รถยนต์ไฟฟ้าประเทศนอร์เวย์กระโดดจาก 50,000 คัน —> 214,000 คัน หรือเรียกได้ว่ายอดใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตมากถึง 400 % ภายใน 4 ปีครับ

Tesla model S ป้ายทะเบียน EL 60000 คันนี้ถูกนำมาจัดฉลอง ณ ถนน Norwegian เนื่องในโอกาสที่รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ถูกจดทะเบียนเป็นคันที่ 50,000 ของประเทศนอร์เวย์ครับ

ที่มา : wikipedia

ทำความรู้จักบริษัท Fresco Motor

รูปที่ท่านเห็นอยู่ด้านบนนี้คือ จุดกำเนิดของบริษัท start up (สัญชาตินอร์เวย์)น้องใหม่แห่งวงการรถยนต์ไฟฟ้า โดย CEO ของบริษัทก็เริ่มต้นจากการร่างภาพรถยนต์ไฟฟ้าแบบ concept car ณ เดือนตุลาคมปีที่แล้ว (2561) นั่นเอง

จากนั้นตัวบริษัทก็เริ่มขยายขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศนอร์เวย์แบบสุดโต่ง จนบริษัทเริ่มมาผลิดอกออกผล ณ วันที่ 23 กรกฏาคมที่ผ่านมา บริษัทได้ให้กำเนิดเว็บไซต์ของตนเอง ( https://www.frescomotors.com)

The Reverie – รถยนต์ไฟฟ้า 4 ประตูที่มาพร้อมกับความเร็ว 0-100 km/h ภายใน 2 วินาที

อย่างที่ทุกท่านเห็นอยู่นี้ รถยนต์ไฟฟ้า the reverie คันนี้หน้าตาละม้ายคล้ายคลึง Tesla model S ซะเหลือเกิน ทำให้ตอนแรกที่ผมเห็นภาพนี้ คิดว่า นี่คือ Tesla model S Version 2.0 ของปีนี้ซะอีก

ทาง Fresco Motor นั้นได้ทำการเปิดจองรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้จองรถสามารถยกเลิกใบจองตอนไหนก็ได้แถมยังไม่ต้องวางเงินมัดจำอีกด้วย ส่วนใครก็ตามที่ลงชื่อจองรถทิ้งเอาไว้ หลังจากที่รถยนต์ไฟฟ้า Fresco Motor คันนี้เปิดตัวแล้ว คนที่เข้ามาลงทะเบียนเอาไว้สามารถขึ้นไปนั่งเพื่อทดสอบสมถภาพของรถได้ทันทีเลยครับ เรียกว่า เปิดจองเพื่อดู feedback หรือ เชคเรทติ้งของผู้ที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้าในทวีปยุโรปและอเมริกานะครับ

ไม่เพียงเท่านั้น ในหน้าเว็บของบริษัท Fresco Motor นั้นยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าไปทำการลงทุนเพื่อรับส่วนแบ่งในการก่อตั้งบริษัทอีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นบริษัท startup รถยนต์ไฟฟ้าที่มาแรงบริษัทหนึ่งในปี 2019 เลยครับ

สเปครถยนต์ไฟฟ้า Fresco Motor รุ่น The reverie

ความยาว : 4807 mm
ความกว้าง : 2226 mm
ความสูง : 1401 mm
​ฐานล้อ : 2746 mm
ระบบขับเคลื่อน : มอเตอร์ไฟฟ้า induction AC
แบตเตอร์รี่ : Lithium-ion
เกียร์ : อัตโนมัติ 4 สปีด
ความจุแบต : N/A(ยังไม่ระบุ)
อัตราเร่ง 0-100 km/h : ภายใน 2 วินาที
ความเร็วสูงสุด : 300 km/h
ราคา : (ยังไม่ระบุ)

Blink Drive Take

ปีนี้เป็นปีที่บูมเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังนะครับ บริษัท startup หน้าใหม่โผล่ขึ้นมาเป็นดอกเห็ดเต็มไปหมดเลย แค่บริษัท startup รถยนต์ไฟฟ้าในจีนก็มีมากกว่า 80 บริษัทแล้วครับ ออกบริษัทมาเยอะจนรัฐบาลต้องออกกฏหมายสั่งห้ามสร้างบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าซี้ซั้ว (สร้างกฏหมายมาอำนวยให้พวกรายใหญ่และบริษัทที่ต้องการจะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าจริงๆ เท่านั้นจึงจะสามารถจดทะเบียนได้นะครับ) ทั้งนี้ที่ประเทศจีนทำไปก็เพื่อป้องกันธุรกิจ SME รายย่อยล่มสลายในปีถัดๆ ไปครับ

ดังนั้นใครก็ตามที่ติดตามเรื่องราวรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ตอนนี้ ผมก็ได้แต่แนะนำให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจว่า ใครจะไป “รอด” หรือ “ไม่รอด” เพราะปีนี้เป็นปีตั้งไข่สำหรับหลายบริษัทจริงๆ แหละครับ ส่วนบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟฟ้ายักษ์ใหญ่ที่อยู่มาก่อนช่วงรถยนต์ไฟฟ้าบูมอยู่แล้วก็ไม่ต้องห่วงไปครับ เพราะตอนนี้ความต้องการ(demand)รถยนต์ไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ดังนั้นบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้นก็ได้ order มาไม่ขาดสายแน่นอน เช่น Tesla, BYD, Byton, Porsche, BMW, Diamler, Benz, Chevrolet, Ford, Honda, Toyota และบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายยี่ห้อนะครับ

กลับมาคุยกับ core business (แก่นหลักของธุรกิจ)รถยนต์ไฟฟ้ากันซะหน่อยนะครับ

การจะสร้างบริษัทผลิตรถยนต์น้ำมันซัก 1 คันนั้นต้องมีเงินทุนอย่างต่ำ 10,000 ล้านบาทนะครับ เพราะส่วนประกอบจากชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ มีซับซ้อนมากมายดังนี้

คุณลองคิดดูว่า การจะออกแบบเครื่องยนต์เครื่องนึงต้องออกแบบระบบลิ้นไอดีและลิ้นไอเสีย, เพลาลูกเบี้ยว, เพลาลูกเบี้ยว, ลูกเบี้ยว, ลูกกระทุ้ง, ก้านกระทุ้ง, กระเดื่องกดลิ้น, ฝาสูบ, ลูกสูบ, และสารพัดอะไหล่ยนต์อีก 2,000 ชิ้นครับ

หน้าตาระบบขับเคลื่อนของรถยนต์น้ำมัน

คราวนี้กลับมาดูของฝั่งรถยนต์ไฟฟ้ากันหน่อยนะครับ

รถยนต์ไฟฟ้านั้นออกแบบให้ simple(เรียบง่ายมากๆ) ทั้งคันมีอยู่แค่นี้จริงๆ คือ แบต, มอเตอร์, อินเวอร์เตอร์(ตัวแปลงไฟจาก AC –> DC)

ส่วนระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้าก็หน้าตาน่ารักแบบนี้ครับ

ดังนั้น บริษัท startup รถยนต์ไฟฟ้าก็เลยโผล่ขึ้นมาเป็นดอกเห็ดยังไงละครับ ในแง่ของแบตรถยนต์ไฟฟ้านั้นก็สามารถเลือก shopping(ซื้อ)ชิ้นส่วนกันได้ตามอัธยาศัยเลย จะซื้อผ่านใครก็ได้เพราะใครๆ ก็อยากขายแบตให้อยู่แล้ว แบตไม่ใช่เทคโนโลยีพิศดารเหมือนเครื่องยนต์สันดาบครับ ผลิตง่ายกว่ามากๆ แถมราคาถูกลงทุกๆ เดือน จึงกลายเป็นสถานการณ์ที่เรียกว่า Win-Win ทั้งคู่คือ บริษัทผลิตแบตก็ชนะเพราะได้ขายแบตให้กับบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า, บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าก็ชนะเพราะไม่ต้องไปลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเป็นของตนเอง

ผมจึงมองรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง หรือจะเปรียบรถยนต์ไฟฟ้าเป็นมือถือก็ได้ครับ

ยกตัวอย่าง Samsung ออกแบบ chipset ให้ iphone 4 แต่สุดท้ายก็เอามาใส่มือถือของตนเองและเอาไปขายคนอื่นได้ด้วย แต่เครื่องยนต์ทำแบบนั้นไม่ได้เพราะการออกแบบนั้นสลับซับซ้อน แถมถ้าเอาไปขายคนอื่นก็โดนฟ้องร้องกันตาย หรือต่อให้แอบเอาไปขายได้จริง แต่พอเวลาเสียขึ้นมาก็ไม่สามารถหาซื้ออะไหล่จากบริษัทแม่ได้เพราะเค้าคงต้องตัดรุ่นนั้นออกไปเลย อีกอย่าง ไม่มีบริษัทเครื่องยนต์รายไหนบนโลกที่รับจ้างผลิตเครื่องยนต์ป้อนสู่ตลาดให้แก่หลากหลายยี่ห้อไปทั่วครับ

แตกต่างจากบริษัทแบตเตอร์รี่รถยนต์ไฟฟ้า , แบตก้อนเดียวกันเอาไปแชร์เทคโนโลยีกันมั่วไปหมด เรียกได้ว่า ถ้าแบตเสียขึ้นมาก็ไปยืมแบตจากรุ่นข้างๆ กันมาใส่ได้ เอาสิครับ แค่ถังน้ำมันรถยนต์ยังไม่เหมือนกันเลย ต้องเป็นรุ่นเดียวกันเท่านั้นถึงจะสามารถใช้ถังน้ำมันเดียวกันได้(คงไม่มีใครไปซื้อถังน้ำมันของ toyota camry มาใส่ toyota yaris หรอกจริงไหมครับ) แต่หารู้ไม่ รถยนต์ไฟฟ้า tesla model S กับ model X นั้นใช้แบตตัวเดียวกันทุกประการ ดังนั้นถ้าแบตเสื่อมก็เอาอะไหล่ของรุ่นถัดไปมาสลับสับเปลี่ยนกันได้ครับ

ผมเลยมองว่า รถยนต์ไฟฟ้าค่าย Fresco Motor นั้นก็คงไปยืมอะไหล่จากเพื่อนบ้านมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าก็ได้ ดังนั้นหักค่าออกแบบชุดขับเคลื่อนออกไปได้เลยครับ

ต้นทุน R&D จะมีแค่ การออกแบบช่วงล่าง, ออกแบบตัวถัง, และออกแบบระบบควบคุณอุณหภูมิห้องโดยสาร, ส่วน infotainment(เช่น google map, spotify), ระบบขับเคลื่อน(มอเตอร์, แบต, อินเวอร์เตอร์) และก็ระบบ ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งไปหาซื้อได้ตามท้องตลาดได้หมดแล้วครับ

อย่าเพิ่งเชื่อผมครับ รอดูปีหน้าก่อนว่า ค่ายนี้จะสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบไหนออกมาบ้าง แต่ที่แน่ๆ มันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เล่นจับรถยนต์ไฟฟ้าติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมประกาศว่า จะทำความเร็ว 0-100 km/h ภายใน 2 วินาทีแบบนี้

Ferrari , Lamborghini, หรือแม้กระทั่ง Bugatti ต้องนั่งไม่ติดบังลังค์แน่นอนครับ

Stay tune, Stay with BLINK DRIVE

(กด “BLINK DRIVE” ได้เลยครับ จะนำท่านไปสู่ Facebook Fan Page: Blink Drive ครับ)

Follow by Email