Blink Blink
EV CarsTesla

[TOP Gear]รถยนต์ไฟฟ้า Tesla model 3 V.S. รถยนต์ BMW M3 กับ 4 บททดสอบที่ท้าทาย

รถยนต์ไฟฟ้า Tesla model 3 Performance นั้นมีราคา 1.8 ล้านบาท($56,000) ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าราคาเท่ากับ Honda Accord บ้านเรานี่เอง

โดยคู่แข่งของ Tesla model 3 นั้นก็คือ BMW M3 ราคา 2.1 ล้านบาท($70,000) โดยที่ไทยขายกันอยู่ที่ 2.97 ล้านบาท(อ้างอิงเว็บ bimmer-th.com ) ถือว่า ราคาเมืองนอกกับราคาในไทยไม่ต่างกันเยอะน่ะครับ

Top Gear ซึ่งเป็นรายการ motor show เทพๆ ของ BBC ได้นำเอารถสองคันนี้มาประลองกันโดยรูปแบบการทดสอบนั้นมีทั้งหมด 4 อย่าง คือ

1. อัตราเร่งและอัตราเบรค [0-100-0]

ทดสอบเร่งถึง 100 km/h จากนั้นทำการเบรคจาก 100 km/h จนรถหยุดนิ่งสนิทอยู่กับที่

Tesla ชนะ BMW ไปด้วยเวลาด้านล่างนี้ครับ

2. Drag 1/4 miles

แข่งวิ่งทางตรงระยะทาง 402 เมตรหรือ ควอเตอร์ไมล์(1/4 miles)

Tesla ก็ยังสามารถเอาชนะ BMW ได้ตามเคยด้วยเวลาเข้าเส้นชัยที่ 11.9 วินาที ทิ้งห่าง BMW M3 ไปประมาณ 0.7 วินาที

สาเหตุหลักที่ Tesla มีอัตราเร่งได้ดีกว่ารถยนต์น้ำมันแบบ BMW นั้นก็เพราะว่ามอเตอร์ของรถยนต์ไฟฟ้านั้นไม่ต้องรอรอบเหมือนเครื่องยนต์แถมกดปุ๊บแกนมอเตอร์จ่ายพลังงานจลตรงถึงล้อเลย ในขณะที่รถยนต์น้ำมันนั้นต้องผ่านห้องเครื่องเผาไหม้น้ำมัน–> ลูกสูบ–> ก้านสูบ —> คลัช –> เกียร์ –> เพลา –> ล้อรถ

มันจึงเป็นสาเหตุที่รถยนต์น้ำมันนั้นจะไม่สามารถทำอัตราเร่งได้ดีเท่ารถยนต์ไฟฟ้าเลยน่ะครับ

3. Hot lap

แข่งวิ่งรอบสนามเซอร์กิจ 1 รอบแล้วจับเวลาทั้งสองคัน

อันนี้สิเรียกว่าการแข่งของจริง เพราะตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าออกมาวางขายนั้น พวกนักเลงรถยนต์ก็บอกว่า รถยนต์ไฟฟ้ามันแรงต้น วิ่ง 1/4 ไมล์ยังไงมันก็ชนะเพราะรถมีแรงได้แป๊บเดียว เดี๋ยวมอเตอร์ก็ร้อน แบตก็หมด

มาคราวนี้รายการ Top Gear เลยจัดให้แข่ง Hot Lap เพื่อทดสอบสมรรถภาพอย่างเต็มที่ไปเลย กลายเป็นว่า Tesla ชนะไปด้วยเวลา 1.34 นาที ทิ้งห่าง BMW เกือบ 2 นาที

4. Drift

ทดสอบ Drift ว่ารถคันไหน drift(ท้ายปัด) ง่ายกว่ากัน

การทดสอบครั้งนี้ ผู้ขับขี่บอกว่า เป็นคนขับ drift ไม่เป็นเลย ดังนั้นจะมาทดสอบว่า รถคันไหน drift (ท้ายปัด)ง่ายกว่ากัน รอบนี้ BMW ชนะไปเพราะมีแรงปัดเยอะกว่า Tesla

ผลคะแนนที่ได้ออกมาคือ Tesla ชนะ BMW ไป 3 ต่อ 1

รับชมคลิปเต็มได้ที่

Blink Drive Take

เอาล่ะว่ะ ผมชอบการทดสอบของ Top Gear มากๆ เลยครับ มีครบเกือบทุกอย่างเลย เช่น เอารถมาวิ่งถึง 100 km/h แล้วทำการเบรค นี่คือการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งเชื่อว่า พวกเราอยากรู้ว่า ประสิทธิภาพรถยนต์ไฟฟ้านั้นเป็นอย่างไร

และการทดสอบ Hot Lap นั้นทำให้เซียนรถยนต์น้ำมันหรือพวกนักเลง keyboard หลายคนหายสงสัยกันเสียทีว่า รถยนต์ไฟฟ้านั้นไม่ได้แรงแค่สนาม drag แต่ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าสามารถนำไปแข่งกับรถยนต์น้ำมันได้อย่างสูสีในสนามแข่ง circuit อีกด้วย

เรื่อง Drag (แข่งทางตรง) ผมยอมรับว่า รถยนต์ไฟฟ้ามันแรงอยู่แล้ว ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงวิ่งได้ 11 วินาทีสบายๆ

แต่อย่าลืมน่ะครับรถยนต์ไฟฟ้าทุกคันมีแค่ 1 เกียร์ แต่เกียร์เดียวในช่วงระยะเวลาพัฒนา 10 ปีที่ผ่านมานี้ ถือว่า รถยนต์ไฟฟ้ามาไกลมาครับ เชื่อว่า อีก 5 ปีข้างหน้านี้ รถยนต์ไฟฟ้าจะต้องสามารถทำ record ออกมาได้ดีกว่านี้แน่นอนครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email