และแล้วก็มีคนนำไอเดีย solar cell ไปแปะติดกับรถยนต์ไฟฟ้าจนได้น่ะครับ แต่คราวนี้เล่นแปะรอบคันเลย ยังไงผมจะย่อยข้อมูลออกมาเป็น bullet point ดังนี้ครับ
-Sono จะใช้โรงงานผลิตรถยนต์ของ Saab ในเมือง Trollhatten ประเทศสวีเดน ที่ซื้อมาได้ตอนปี 2012 เพื่อใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพลังงงานแสงอาทิตย์คันนี้
-Sono ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 43,000 คันต่อปีและคาดการณ์ว่า จะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ถึง 260,000 คันภายใน 8 ปีข้างหน้า
-Solar cell รอบรถ Sono สามารถเอามาชาร์จแบตให้แก่รถได้มากสุด 34 km (21 miles) ต่อวัน แค่คุณจอดทิ้งกลางแดดเอาไว้วันล่ะ 6-8 ชั่วโมงก็ได้ range มากถึง 34 km มาใช้สบายๆ
-รถยนต์ไฟฟ้า Sono สามารถวิ่งได้ถึง 250 km (155 miles) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
-Sono เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้มาตั้งแต่ปี 2017 ที่ยุโรปและทำการทดลองวิ่งตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
-Sono เป็นบริษัท startup สัญชาติเยอรมัน ร่วมมือกับ NEVS(National Electric Vehicle Sweden ) หรือองค์กรรถยนต์ไฟฟ้าประเทศสวีเดนทำการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ขึ้นมา
-รถยนต์ไฟฟ้า Sono คันนี้ติดตั้งระบบ bi-directional charging function ซึ่งก็คือระบบที่สามารถจ่ายไฟกลับไปยังหัวชาร์จเพื่อนำไปชาร์จรถคันอื่นหรือจ่ายไฟกลับเข้าไปยัง grid โดยรถคันนี้จะออกแบบให้เป็น power bank ให้แก่เมืองหลวงตอนที่มีการใช้ไฟฟ้าช่วง peak (ปริมาณเยอะ)อีกด้วย ทำให้ลดการปั่นไฟเกินกำลังจากโรงปั่นไฟรอบๆ เมือง และสามารถชาร์จไฟกลับไปยังรถช่วงเวลาคนไม่ค่อยใช้ไฟกันแล้วอีกด้วย
ที่มา : https://europe.autonews.com/automakers/german-startup-plans-build-solar-car-former-saab-plant
ที่มา : https://www.foxnews.com/auto/solar-powered-car-gets-the-green-light
Blink Drive Take
ผมชอบความคิดเรื่อง bi-directional charging function ของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้มากๆครับ ซึ่งทำ function (การใช้งานมาเหมือน)รถยนต์ไฟฟ้า BYD เลย แต่ยังไงผมมองว่า อนาคตรถพวกนี้จะทำหน้าที่เป็นแบตให้เมืองหลวงต่างๆในเวลาที่พวกเราไม่ได้ใช้งานรถน่ะครับ
และอีกสิ่งหนึ่งที่ชอบคือ เอามอสมาปลูกใน console รถ โดยคนขับจะรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ธรรมชาติตลอดเวลา ซึ่ง sono มองว่านี่เป็น concept “Green movement” อย่างจริงจังเลย ผมคิดว่า ถ้ารถคันนี้ออกมาสู่ตลาดจริง ๆ น่าจะไปตีตลาดฆ่ารถ ICE ที่เป็น Eco Car หมดแน่นอน
แต่สิ่งผมกังวลคือค่าซ่อมตัวถังเพราะเป็น solar cell รอบคัน ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ทางบริษัทต้องผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้รองรับน่ะครับ ไม่งั้นรอซ่อมกันมันแน่นอน