สิ้นสุดการรอคอยซักทีครับ กับรถ CUV (Crossover Vehicle) ไฟฟ้าราคาจับต้องได้จาก บริษัท Tesla
ส่วนภาพด้านบนนี้คือ ภาพเปรียบเทียบขนาดของ Tesla model 3 กับ tesla model Y โดย Model Y นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่า Model 3 ถึง 10 %
สเปค Model Y ในแต่ล่ะแบบ
ก่อนอื่นเลยก็มาเริ่มกันที่ราคาของ tesla model Y กันก่อนน่ะครับ โดยผมจะเรียงจากรุ่นที่ถูกที่สุดไปยังรุ่นที่แพงที่สุดครับ
- Standard Range 2WD หรือรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ range 230 miles (368 km)
Spec คร่าวๆ รถยนต์ไฟฟ้า Tesla model Y รุ่น standard range
ราคา 1.24 ล้านบาท($39,000)
อัตราเร่ง 0-100 km/h = 5.9 วินาที
ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้ 230 miles (368 km)
ล้อแม๊คขนาด = 18″ หรือ 19″
ระบบขับเคลื่อน = 2 ล้อหลัง
ที่นั่ง = สูงสุดถึง 7 ที่นั่ง
ความจุภายในห้องโดยสาร = 65 ลูกบาศก์ฟุต
ความเร็วสูงสุด = 120 mph หรือ 192 km/h
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก : หน้าจอสัมผัสขนาด 15 นิ้ว
2. Long Range 2WD หรือรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ range 300 miles (480 km)
ราคา 1.5 ล้านบาท($47,000)
อัตราเร่ง 0-100 km/h = 5.5 วินาที
ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้ 300 miles (480 km)
ล้อแม๊คขนาด = 18″ หรือ 19″
ระบบขับเคลื่อน = 2 ล้อหลัง
ที่นั่ง = สูงสุดถึง 7 ที่นั่ง
ความจุภายในห้องโดยสาร = 65 ลูกบาศก์ฟุต
ความเร็วสูงสุด = 130 mph หรือ 208 km/h
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก : หน้าจอสัมผัสขนาด 15 นิ้ว
3. Long Range AWD หรือรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และ range 280 miles (448 km)
ราคา 1.63 ล้านบาท($51,000)
อัตราเร่ง 0-100 km/h = 4.8 วินาที
ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้ 280 miles (448 km)
ล้อแม๊คขนาด = 18″ หรือ 19″
ระบบขับเคลื่อน = 4 ล้อ (มอเตอร์หน้า 1 ตัว, มอเตอร์หลัง 1 ตัว)
ที่นั่ง = สูงสุดถึง 7 ที่นั่ง
ความจุภายในห้องโดยสาร = 65 ลูกบาศก์ฟุต
ความเร็วสูงสุด = 135 mph หรือ 216 km/h
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก : หน้าจอสัมผัสขนาด 15 นิ้ว
4. Performance หรือรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และ range 280 miles (448 km)
ราคา 1.92 ล้านบาท($60,000)
อัตราเร่ง 0-100 km/h = 3.5 วินาที
ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้ 280 miles (448 km)
ล้อแม๊คขนาด = 18″ หรือ 19″
ระบบขับเคลื่อน = 4 ล้อ (มอเตอร์หน้า 1 ตัว, มอเตอร์หลัง 1 ตัว)
ที่นั่ง = สูงสุดถึง 7 ที่นั่ง
ความจุภายในห้องโดยสาร = 65 ลูกบาศก์ฟุต
ความเร็วสูงสุด = 150 mph หรือ 240 km/h
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก : หน้าจอสัมผัสขนาด 15 นิ้ว
หมายเหตุ : ใช้อัตราแลกเปลี่ยน USD กับ เงินบาทที่ $1 = 32 บาท
การสั่งซื้อ
เป็นที่รู้ๆ กันว่า Tesla ไม่เปิด Store หรือหน้าร้านสำหรับขายรถอีกต่อไปแล้ว เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว การเปิด store นั้น Tesla ต้องเสียเงินอย่างทิ้งขว้างมหาศาล โดย Elon เคยกล่าวเอาไว้ว่า การปิด store นั้นทำให้บริษัทลงต้นทุนไปทั้งหมด 6 % จาก capital ทั้งหมดที่ Tesla มี ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการผลิตรถยนต์ลงไปได้น่ะครับ
หลังจากที่ Tesla model Y เปิดตัวแล้ว ลูกค้าสามารถสั่งซื้อ Tesla model Y ผ่านทาง website Tesla ได้เลย โดยรถคันนี้จะส่งมอบให้แก่ลูกค้าทุกท่านภายในปี 2563 (ปีหน้า) มีเพียงรุ่น standard range 2WD เท่านั้นที่จะเริ่มผลิตปี 2564
โดยลูกค้าสามารถสั่งเลือกสีตัวถัง และ ขนาดของล้อแม๊คได้อย่างเต็มที่
ราคาสีดำ (Base color) จะ free ไม่เสียเงินเพิ่ม ทั้งนี้ tesla ทำไปเพื่อต้องการให้ลูกค้าสั่งเพียงสีนี้ เพื่อง่ายต่อการผลิตน่ะครับ
ราคา สีเทา +$1,500 (เพิ่มเงินอีก 48,000 บาท)
ราคา สีน้ำเงิน +$2,000 (เพิ่มเงินอีก 64,000 บาท)
ราคา สีขาวมุก +$2,000 (เพิ่มเงินอีก 64,000 บาท)
ราคา สีแดง +$2,500 (เพิ่มเงิน 80,000 บาท)
ล้อแม๊คที่ให้มากับรถคือ ล้อแม๊คขนาด 18 นิ้ว
ถ้าจะเปลียนเป็นแม๊ค 19 นิ้ว เพิ่มเงินอีก +$1,500 (เพิ่มเงินอีก 48,000 บาท)
รถยนต์ไฟฟ้า tesla model Y นั้นให้ที่นั่งมีเพียง 5 ที่นั่งเท่านั้น ถ้า ต้องการเพิ่มเป็น 7 ที่นั่งก็เสียเงินเพิ่มอีก $3,000 หรือ 96,000 บาท
รถ tesla model y ทุกคันมาพร้อมกับหลังคาแก้ว(Panoramic Glass Roof) ซึ่งบ้านเราคงจะไม่ค่อยชอบเพราะเพิ่มความร้อนให้กับตัวรถ แต่ที่อเมริกานั้นขายดีมาก เพราะฤดูหนาวที่นี่ หนาวสุดๆไปเลย และคนที่นี่ชอบอาบแดดน่ะครับ
หลังจากลูกค้าสั่งซื้อรถ model Y เสร็จแล้วก็จะปรากฏหน้าต่างด้านบนขึ้น โดยลูกค้าจะต้องวางเงินมัดจำ $1,000 หรือ 32,000 บาท จากนั้นลูกค้าจะได้ reservation number มาเพื่อเชคสถานะการสั่งจองรถว่า ไปถึงไหนแล้ว อารมณ์ก็เหมือนสั่ง iphone4 จาก apple website โดยตรงแหละครับ ต่างกันตรงที่ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้จะเริ่มผลิตปลายปีนี้
หนึ่งในไม้ตายของ รถยนต์ไฟฟ้า Tesla คือระบบ Auto-pilot ที่เข้ามาช่วยดูปัญหาต่างๆ ใน ท้องถนนและช่วยขับขี่ในบางโอกาส เช่น บนทางด่วน เป็นต้น
มีคนบอกว่า Tesla นั้นสร้างรถให้เหมือนมือถือ iphone คือ คงความเป็น minimalist (เรียบง่าย) แต่แฝงไปด้วย feature(ลูกเล่น) ต่างๆ มากมาย เช่น auto-pilot, sentry mode(โหมดกล้องวงจรปิดในกรณีคนเข้ามาใกล้รถเราหรือทุบกระจกรถเรา), auto-parking(ระบบเข้าซองจอดให้เอง), และ Valet mode (โหมดบังคับรถยนต์ของเราผ่านมือถือเพื่อนำรถออกจากที่จอดรถ)
BLINK DRIVE TAKE
รถยนต์ไฟฟ้า CUV Tesla Model Y คันนี้จะอยู่ใน section เดียวกันกับ BMW X6 แหละครับ ส่วนราคาที่ออกมาก็ไม่ได้เลวซักทีเดียว ส่วนปีหน้า tesla gigafactory แห่งที่ 3 ของจีนก็จะเปิดตัวซะด้วย เพิ่มกำลังผลิตได้ถึง 500,000 คันต่อปี
Elon Musk บอกว่า ณ ปัจจุบัน มีคนทำงาน site งานนี้อยู่ที่ 10,000 คนต่อวัน ทำงานวันล่ะ 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด จึงมีการคาดการณ์ว่า โรงงานแห่งนี้จะสร้างเสร็จสมบูรณ์ก่อนเดือนสิงคมนี้น่ะครับ
ผมเพิ่งทราบมาว่า ถ้ารถยนต์ไฟฟ้าผลิตที่จีนแล้วนำเข้ามาขายในไทยจะได้ สิทธิพิเศษเรียกว่า FTA (Free Trade Area )หรือเขตการค้าเสรี เรียกได้ว่า ภาษีนำเข้าจะถูกมากๆ โดยรถยนต์ไฟฟ้าถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นั้นด้วย ดังนั้นถ้า tesla สร้าง gigafactory เสร็จแล้ว พวกเรามีความหวังที่จะได้ขับรถยนต์ไฟฟ้าคันล่ะ 1-3 ล้านบาทแล้วล่ะครับ
อ้างอิง : FTA เขตการค้าเสรี
ติดต่ออ่านบทความต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/blinkdrive555/
