Site icon Blink Drive

เปิดตัวแล้ว!!! รถ Hyper Car ที่เร็วที่สุดในโลก Pininfarina Battista 1,900 แรงม้า (มี 150 คันในโลกเท่านั้น)

Pininfarina (พินินฟารินา) สำนักออกแบบรถยนต์อิสระชื่อดังจากอิตาลีเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าไฮเปอร์คาร์ พร้อมเปลี่ยนจากสำนักออกแบบเป็นค่ายผลิตรถ !!

ประวัติความเป็นมาย่อ ๆของบริษัท พินินฟารินา

พินินฟารินา เอส.พี.เอ. (Pininfarina S.p.A.) เดิมชื่อว่า คาร์รอซเซอเรีย พินินฟารินา (Carrozzeria Pininfarina) เป็นสำนักออกแบบยานยนต์สัญชาติอิตาลีที่มีชื่อเสียง ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 (พ.ศ. 2473) โดย บาตติสตา “พินิน” ฟารินา มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองคัมบิอาโน ใกล้กับเมืองตูริน โดยที่ผ่านมาพวกเขาออกแบบรถยนต์มาหมายหลายรุ่นที่ดังๆ ซึ่งนอกจากของ Peugeot แล้ว ที่ดังๆ ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาก็เช่น Ferrari 812 Superfast, Ferrari pininfarina, Ferrari Tessarossa, Alfa GT/GTV, Mitsubishi Pajero Pinin และ Volvo C70 รุ่นที่ 2 แน่นอนว่าทั้งหมดคืองานนั่งหลังฉาก แต่ทว่า Pininfarina ยังรับหน้าที่ผลิตรถยนต์ตามใบสั่งของลูกค้าระดับเงินถุงเงินถังอีกด้วย และอีกหนึ่งธุรกิจที่มีข่าวมานานว่าจะลุยคือ การผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์ตัวเองออกสู่ตลาดในเดือนพฤษภาคมปี 2562(ปีนี้)

Source : https://www.gqthailand.com/…/pininfarina-h2-speed-first-look

Pininfarina (พินินฟารินา) เตรียมเปิดตัวรถที่ไม่ใช่เพียงแต่เป็นรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งคันเท่านั้น แต่ยังเป็นรถที่เร็วและแรงที่สุดในโลกเสียด้วย

ข่าวดังอีกข่าวคือ Mahindra Group หรือค่ายรถยนต์ของอินเดียเป็นเจ้าของ บริษัท Pininfarina น่ะครับ เรียกว่า ค่ายรถอินเดียค่ายนี้วางแผนระยะยาวกับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นเอาไว้หมดแล้ว และเทคโนโลยีของ Pininfarina ก็ถูกแบ่งมาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า Mahindra ในอนาคตแน่นอน

Pininfarina Battista กับการจัดวางมอเตอร์และแบต 120 kWh แบบ T-shaped

การออกแบบระบบขับเคลื่อนนั้นเป็นแบบ 4 WD หรือขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่สิ่งที่ทำให้ Pininfarina Battista แตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าค่ายอื่นๆ บนโลกคือ การจัดวางมอเตอร์แบบ 1 : 1 (มอเตอร์หนึ่งตัวต่อล้อหนึ่งล้อ) ดังนั้น Battista คันนี้จึงสามารถเค้นสมรรถภาพของมอเตอร์ออกมาได้ถึง 1,400 kW หรือ 1,900 แรงม้านั่นเอง ได้แรงบิดมหาศาลออกมาทั้งหมด 2,300 นิวตัน (ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า Tesla model S P100D(ตัวแรงสุดของ Tesla) สามารถทำแรงบิดได้แค่ 931 นิวตันเท่านั้นเอง) ส่วนแบตก็ให้มา 120 kWh โดยแบตตัวนี้ใช้เทคโนโลยีของ Rimac เจ้าแห่งความเร็วอยู่แล้ว ดังนั้น รถ Pininfarina Battista คันนี้จะเป็นรถ hyper car ที่เร็วและแรงที่สุดในโลก โดยสื่อต่างประเทศบอกว่า รถคันนี้สามารถวิ่งซัดกับ รถแข่ง Formula 1 ได้สบายๆ แต่เรื่อง Top Speed นั้น ได้มาน้อยกว่า Ferrari hyper car ซักหน่อยน่ะครับ อยู่ที่ 217 mph หรือ 350 km/h แต่ทางค่ายบอกว่า เนื่องจากรถคันนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าดังนั้น สามารถปรับแต่งผ่านการ update software OTA ได้ตลอดเวลา จึงมีการคาดการณ์ว่า จะสามารถปรับแต่งความเร็วและแรงจาก software ในอนาคตแน่นอนครับ

Pininfarina (พินินฟารินา) ตั้งชื่อรถคันนี้ว่า Battista ซึ่งก็คือชื่อ CEO ของบริษัทนั่นเอง
รถคันนี้ตั้งใจผลิตออกมาขายเพียง 150 คัน โดย 50 คันแรก จะส่งไปขายที่อเมริกา ส่วน 50 คันต่อมา ส่งไปขายที่ยุโรป และ 50 คันสุดท้ายจะส่งไปขายที่ทวีปเอเชีย

ส่วนราคานั้นก็ต้องบอกว่า เอามาให้เศรษฐีใช้ครับ รถคันนี้ราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านเหรียญ(64 ล้านบาท) จนไปถึง 2.5 ล้านเหรียญ( 80 ล้านบาท) ดูๆ แล้วยังถูกกว่า bugatti veyron (240 ล้านบาท)เยอะครับ แต่คันนี้แรงกว่า เร็วกว่า ทันสมัยกว่า ซ่อมบำรุงง่ายกว่า แถมรักสิ่งแวดล้อมซะด้วย

ปล. Bugatti Veyron เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งล่ะ 18 ลิตร และค่าใช้ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแต่ล่ะครั้งก็ประมาณ 20,000 เหรียญหรือ 640,000 บาท

Spec รถ pininfarina battista คร่าวๆ :

อัตราเร่ง 0-100 km/h – ต่ำกว่า 2 วินาที
ความแรง : 1,900 แรงม้า
ระบบขับเคลื่อน : 4WD หรือ 4 ล้อ
แบตเตอร์รี่ : 120 kWh
ความเร็วสูงสุด : 350 km/h หรือ 217 mph
เครื่องยนต์ : มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว (หน้า 2 ตัว, หลัง 2 ตัว)
Range ระยะทางที่วิ่งได้ : 310 miles หรือ 496 km
ราคา : 2.2 ล้านเหรียญ(70 ล้านบาท)

Source : CBNC

Automobili Pininfarina’s ground-breaking Battista luxury electric hypercar revealed in three different beautiful specifications at the World Premiere of the all-electric hypercar in Geneva 4th March 2019 World Copyright: Patrick Gosling / Stan Papior Beadyeye Ref: Automobili_Pininfarina_Battista_GIMS_2019-00846.jpg

Blink Drive Take

เป็นอย่างที่ผมเคยคาดการณ์เอาไว้เลยว่า หลังจากราคาแบตเตอร์รี่ดิ่งลงแล้ว บริษัทต่างๆ ที่ยุ่งเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ก็ผลันตัวมาสร้างรถยนต์ไฟฟ้าเอง เพราะการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าแบบ hyper car นั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ไม่จำเป็นต้องไปซื้อพิมพ์เขียวเครื่องยนต์ super car มาออกแบบให้เมื่อยมือ ก็แค่ไปหยิบมอเตอร์ที่ใช้งานในเชิงอุตสาหกรรมตัวแรงๆ มา 2-3 แบบและทำการปรับแต่งให้ใช้งานกับรถได้

source : http://rameznaam.com/2015/10/14/how-cheap-can-energy-storage-get/

ส่วนแบตก็มีขายกันตามท้องตลาดอยู่แล้ว แค่โทรหา supplier เช่น panasonic, toshiba, LG หรือไม่ก็ samsung ให้ส่งตัวอย่างแบตมาให้ดูแล้วทำการประกอบออกมาเป็นรถ ที่จะวัดกันว่า รถใครเจ๋งกว่า ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์อีกต่อไปแล้วครับ แต่เป็นเรื่องของ software + hardware ของระบบ autonomous driving(ระบบช่วยขับ)ต่างหากว่า ใครจะออกแบบมาให้ flawless(สมบูรณ์แบบ)ที่สุด

ตอนนี้ไม่ใช่เฉพาะสำนักสร้างรถอย่าง Pininfarina ลงมาลุยทำรถน่ะครับ แม้กระทั่ง google, apple, dyson(บริษัทเครื่องดูดฝุ่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก) ก็ผลันตัวมาสร้างรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนกัน โดย google จับมือกับ crysler (ค่ายลูกของ GM) ลุยสร้างรถยนต์ autopilot ส่วน dyson จับมือกับ minicooper(ค่ายลูกของ BMW) ลงมาลุยสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่สิงคโปร์ ส่วน apple ก็ขุด project titan (ค้นหาใน google ดูเลยครับ เป็น project ลับของ apple) ออกมาลุยกัน โดยซื้อตัวพนักงาน tesla ไปเยอะมากๆ เพื่อพัฒนา project นี้

เชื่อว่า ไม่เกิน 5 ปี จะได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายมือถือต่างๆ แน่นอนครับ เพราะการสร้างรถยนต์ไฟฟ้ามันง่ายดายมากๆ hardware ที่เอามาสร้างมีเพียง มอเตอร์กับแบตเตอร์รี่ แตกต่างจากรถยนต์ ICE ที่ต้องวางแปลนทางส่งน้ำในหม้อน้ำ, ออกแบบ heater โดยเดินท่อน้ำจากห้องเครื่องไปยังห้องโดยสาร, ออกแบบตำแหน่งลูกสูบ, คำนวณองศาแกนวาว์ลที่ใช้งานในแต่ล่ะช่วง rpm, จัดวางอุปกรณ์ในห้องเครื่องยนต์, ออกแบบท่อ header, ออกแบบท่อไอเสียให้ปล่อยมลพิษน้อยที่สุด, ติดตั้ง censor อื่นๆ อีกมากมายเพื่อเช็คอ๊อคซิเจนและคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ก่อนปล่อยออกจากห้องเครื่อง, สร้างแกนวาว์ลปิด- เปิดห้องไอดี และไอเสีย กว่ากำลังส่งจะส่งถึงล้อรถ พลังงานหายไปกับของพวกนี้ถึง 80 % แต่ผู้คนก็ยังทนใช้รถพวกนี้เพราะผู้ผลิตกลัวไม่ได้ขายอะไหล่ยังไงครับ

Exit mobile version