Site icon Blink Drive

[CNN] รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ครองแชมป์รถหรูขายดีที่สุดในอเมริกา ปี 2561

[แหล่งข่าว CNN] บริษัท Tesla ได้ทำการลดราคารถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 เหลือ 42,900 เหรียญสหรัฐหรือ 1.4 ล้านบาท

ตอนนี้สัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในอเมริกากระเถิบขึ้นมาอยู่ 1.2 % ของตลาดรถยนต์ทั้งหมดในอเมริกา อ้างอิงจากข้อมูลเว็บไซต์ Edmund

โดย Tesla ขาย model 3 ออกไปทั้งหมด 146,000 คันภายในปี 2561 ที่ผ่านมา ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า Tesla model 3 ขึ้นครองตำแหน่งรถที่ขายดีที่สุดในกลุ่ม luxury car(รถหรู) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อ้างอิง : https://www.cnn.com/2019/02/07/success/tesla-model-3-best-selling-luxury-car/index.html

แค่เดือนธันวาคม เดือนเดียวยอดขาย Tesla Model 3 ก็พุ่งทยานไปอยู่ที่ 25,570 คัน แซงหน้ารถหรูทุกค่ายแบบทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่นเลยครับ

โดยยอดขายทั้งปีของ Tesla Model 3 นั้นเยอะกว่ายอดขายของ Mercedes Benz ทุกรุ่นรวมกันเสียอีก

แถม CNN ยังย้ำอีกว่า Tesla model 3 รุ่นนี้ ไล่เก็บลูกค้าของ BMW ไปหมดเลย โดยรถ BMW นั้นมี 11 รุ่นที่อยู่ในราคา price range ของ tesla model 3 และทาง BMW ก็ได้ออกมายอมรับว่า ที่ยอดขายรถยนต์ตกระนาวเพราะรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla model 3 เข้ามาแย่งชิงยอดขายจากบริษัทของตน ทำให้ BMW ต้องเร่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าลงตลาดรถยนต์ในอเมริกาภายในปลายปีนี้ครับ

แต่นี่ยังไม่ใช่ยอดขายสูงสุดต่อเดือนที่ Tesla คาดหวังเอาไว้น่ะครับ เพราะตอนนี้ราคารถยนต์ไฟฟ้า Tesla model 3 อยู่ที่ 42,900 เหรียญ ถ้าเมื่อใดก็ตามที่ Tesla สามารถแก้ไขปัญหาขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อนเหล่านี้ลงไปได้อีก ราคารถยนต์ไฟฟ้า tesla model 3 คันนี้จะอยู่ที่ 35,000 เหรียญต่อคัน หรือ 1.15 ล้านบาท ต่อคัน เมื่อนั้น จะเกิดการชุลมุนครั้งใหญ่ในตลาดรถยนต์ของอเมริกาเลยครับ เพราะราคา 35,000 เหรียญนี้ จะไปตบหน้ารถยนต์ section ธรรมดาต่างๆ เช่น Honda CR-V , Toyota Camry Hybrid, Honda Accord Hybrid, หรือ Nissan Altima ครับ

เพราะยังมีคนมากกว่า 200,000 คนที่ยังถือใบจอง Tesla model 3 อยู่แต่ยังไม่เข้ามาซื้อเพราะราคาของตัวรถนั้นยังไม่ได้อยู่ใน budget ที่ตัวเองกำหนดเอาไว้ครับ

ส่วน Tesla Model 3 รุ่น 35,000 เหรียญนั้นจะออกมาปลายปีนี้แหละครับ โดยหลายแหล่งข่าวคาดการณ์เอาไว้ว่า สาเหตุที่ทำให้ต้นทุนของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ถูกลงไปได้มาจาก 3 สาเหตุด้วยกัน

1. ราคาแบตเตอร์รี่ lithium-ion ที่ถูกลง

ตอนนี้แหล่งแร่ lithium นั้นสามารถขุดได้ออกมาเรื่อยๆ แถมภายใน 5-10 ปีนี้ การวิจัย recycle battery lithium ion จะสามารถนำมาใช้งานจริงได้ 100 % ถึงเวลานั้นแล้วใครก็ตามประเทศไหนที่มีแร่ลิเธียมเยอะที่สุดในโลกจะเป็นประเทศที่รวยที่สุดในโลกแหละครับ ซึ่งตอนนี้การขุดแร่พวกนี้ออกมาใช้ผลิตแบตนั้นเป็นไปด้วยดีแหละครับ เพราะมีรัฐบาลหลากหลายประเทศร่วมมือร่วมใจ ยื่นมือเปิดทางให้ขุดแร่กันอย่างเสรีมากยิ่งขึ้น

กราฟแสดงราคาต้นทุนแบตเตอร์รี่ lithium-ion พุ่งลงในทุกๆ 5 ปี
อ้างอิง : https://cleantechnica.com/2018/06/09/100-kwh-tesla-battery-cells-this-year-100-kwh-tesla-battery-packs-in-2020/

2. Tesla เลิกจ้างคนอเมริกันผลิตรถแล้วเปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรเพื่อลดต้นทุน

ภาพ robot arm สร้างรถยนต์ไฟฟ้า tesla

สาเหตุหนึ่งเลยที่ robot arm หรือ หุ่นยนต์จะสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ก็คือ robot ทำงานได้ 24 ชั่วโมง, robot ไม่ลาป่วย, ลาคลอดลูก, ลาตาย, ลาออก, หรือแม้กระทั่งประท้วงของ Bonus ปลายปีครับ

อย่างที่รู้ว่า แรงงานมนุษย์นั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ยิ่งอเมริกานั้น ราคาค่าแรงนั้นสูงมากๆ ค่าแรงขั้นต่ำของคนที่นี่คือ $100 ต่อวัน หรือ 3,300 บาทต่อวัน

คุณก็คิดดูเองล่ะกันว่า ถ้าโรงงานเลิกจ้างคนได้ 500-1,000 คนก็สามารถประหยัดเงินไปได้ 50,000-100,000 เหรียญต่อวันเลย แต่ถ้าเค้าย้ายฐานผลิตไปจีนก็อีกเรื่องนึงเพราะแรงงานที่นั่นราคาถูกกว่าเยอะมากครับ

robot ทำการทดสอบเก้าอี้ Tesla model 3

การลดจำนวนแรงงานในอเมริกานั้น เหมือนกับฆ่าตัวตายทางอ้อมเพราะสหภาพแรงงานที่นี่ใหญ่และมีอำนาจมาก ๆ แต่ Tesla ก็ยังสามารถเอาชนะอุปสรรคตรงนี้มาจนได้แหละครับ

3. Tesla ย้ายฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าไปยังประเทศจีน

อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่า ตอนนี้บริษัท Tesla นั้นเตรียมเปิดโรงงาน gigafactory แห่งที่ 3 ที่ประเทศจีน โดย โรงงานแห่งนี้จะเปิดทำการภายใน 10-12 เดือนหลังจาก ground breaking ณ วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ส่วนกำลังผลิตของโรงงานแห่งนี้จะอยู่ที่ 500,000 คัน

อ้างอิง : https://electrek.co/2019/01/17/tesla-gigafactory-3-site-alive-construction-work-video/

งานนี้ รัฐบาลจีนไฟเขียวแถมหนุนหลังเต็มที่เลย เรียกว่า ปูพรมพร้อมสนับสนุนทุกรูปแบบให้โรงงานแห่งนี้สร้างให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

นี่คือ video เมื่อ วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากทำการปรับพื้นที่แล้ว ตอนนี้เริ่มจะเห็นตึกบางตึกสร้างเสร็จแล้ว เรียกว่า สร้างออกมาได้รวดเร็วมากๆ

Blink Drive Take

นี่เป็น post แรกของผมเลยที่เขียนเกี่ยวกับค่ายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในเว็บแห่งนี้ คาดว่าอนาคตอันใกล้นี้ผมคงจะมีโอกาสได้เขียนเจาะลึกเกี่ยวกับเสปคต่างๆ ของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y ที่จะออกมา เผยโฉม ณ วันที่ 15 มีนาคมนี้น่ะครับ

ปี 2561 ที่ผ่านมา คนอเมริกาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าไปใช้มากกว่า 8 แสนคัน

แต่มาปี 2562 นี้ มีแหล่งข่าวหลายที่คาดการณ์ว่า ตัวเลขนี้น่าจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวครับ

ยังไงก็รอดูกันต่อไปน่ะครับ สุดท้ายรถยนต์น้ำมันที่พวกเค้าไม่ใช้แล้วจะถูกส่งมาขายประเทศโลกที่สามต่อครับ ดังนั้นประเทศที่กำลังพัฒนาจะได้ผลประโยชน์เหล่านี้เต็มๆ ถ้าพวกคุณสังเกตุกันดีๆ แล้วล่ะก็ จะเห็นว่า ช่วงนี้ค่ายรถยุโรปในไทยนั้น หั่นราคารถยนต์กันกระจุยกระจายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราคารถ BMW หรือ Benz นั้น แทบจะหล่นมาแตะ Accord ตัว Top กันอยู่แล้ว

สังเกตุไหมครับว่าแต่ก่อนรถหรูค่ายยุโรปไม่เคยง้อคนซื้อขนาดนี้เลย ยังไงก็ดูกันต่อไปน่ะครับ แต่คนอเมริกาเค้าทำนายกันว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะมาแทนที่รถยนต์น้ำมันภายใน 10 ปีต่อจากนี้ครับ โดยอีก 5 ปีต่อจากนี้ 30 % ของรถบนถนนในอเมริกาจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าครับ

อย่าเพิ่งเชื่อผมครับ ลองดูกันไปก่อน ตอนนี้ จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่งอยู่ที่ 1.2 % ของจำนวนรถยนต์ทั้งหมดในประเทศอเมริกาเองครับ ผมจะมาทำการ update ข้อมูลเรื่อยๆ เพื่อเปิดโลกทัศน์ให้เห็นว่า โลกภายนอกประเทศไทยนั้นหมุนกันเร็วมากๆ ครับ แต่ประเทศบางประเทศยังพยายามยัดไส้ hybrid เข้ามาขายกันอยู่เลย โดยปล่าวประกาศว่า ต้องพัฒนาเป็นขั้นเป็นตอน ยังไงก็รอดูกันต่อไปครับ

Exit mobile version